'ภูมิธรรม' แจงหวนคืนคุม 'พาณิชย์' ต้องฟังนายกฯ ไร้สัญญาณปรับครม.

'ภูมิธรรม' แจงหวนคืนคุม 'พาณิชย์' ต้องฟังนายกฯ ไร้สัญญาณปรับครม.

“ภูมิธรรม” ระบุ ยังไม่มีสัญญาณปรับครม. หลังมีกระแสข่าวหวนกลับคุม “กระทรวงพาณิชย์” ย้ำ ต้องฟังนายกฯ ทุกอย่างเป็นการคาดคะเน

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีชื่อนายภูมิธรรมกลับไปเป็นรมว.พาณิชย์ ว่าตนโดนไปได้ทุกที่ตราบใดที่เป็นการคาดคะเน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเรื่องนี้ และยังไม่มีการพูดคุยกันเลย อย่างที่บอกการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจริงๆ และตนยังไม่เคยได้ยินเสียงบ่นจากนายกฯ ว่าไม่เอาตรงนั้น ได้ยินแต่ว่าอยากให้ร่วมมือกันให้ได้ ท่านได้บอกแล้วว่าท่านเป็นคนตรงไปตรงมาในการทำงาน ไม่ชอบให้มีการทำตรงนั้นตรงนี้ มีวาระขัดกันไปขัดกันมา ท่านไม่อยากเห็น ท่านอยากทำงาน เพราะฉะนั้น ยังไม่เคยได้ยินเสียงจากท่านเลยว่าจะปรับ ซึ่งสถานการณ์จะปรับหรือไม่ปรับมีปัจจัยหลายอย่าง และคนที่จรดปากกาเซ็นคือนายกฯ สิ่งเหล่านี้ถ้าอยากจะรู้ทิศทางให้ท่านดูคำตอบจากนายกฯ ดูจากภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ท่านก็ตอบชัดเจนว่ายังไม่คิด เพราะนายกฯเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่สส.พรรคเพื่อไทย เป็นห่วงเรื่องสินค้าราคาเกษตร จึงมีการเขย่าเก้าอี้รมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหาสส.ในพรรคเพื่อไทยที่รู้สึก และสะท้อนนายกฯก็รับฟัง เพราะถือเป็นปัญหาการทำงานซึ่งเกิดได้ทุกเรื่องทุกอย่าง เราจะบริหารความพึงพอใจให้มากที่สุดไม่ได้ เพราะความพึงพอใจของคนไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่เราทำคือการบริหารความถูกต้อง และความเหมาะสมให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ในทางการเมืองต้องบริหารความไม่พอใจให้น้อยที่สุด ไม่ได้บริหารความพึงพอใจ เพราะความพึงพอใจ และความต้องการของคนเท่าไหร่ก็ไม่พอ
   เมื่อถามว่า มองว่าจะมีการปรับครม.หลังผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้เป็นวิธีคิดแบบสูตรเดิม ที่ต้องรอให้เรื่องนั้นเรื่องนี้ผ่าน ซึ่งวันนี้เสียงรัฐบาลพออยู่แล้ว
    เมื่อถามย้ำว่า แล้วสูตรใหม่คืออะไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า สูตรใหม่ยังไม่ได้คิด แต่ตนคิดว่าอยู่ที่การมองของผู้นำ ว่าขณะนี้บรรยากาศการทำงานร่วมกันสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ หากไม่บรรลุเป้าหมายจากจุดไหน นายกฯก็คงพิจารณาว่าเกิดจากเงื่อนไขอะไร หากมุ่งหวังแล้วส่วนไหนที่ยังไม่สามารถทำได้ ไม่ใช่อยู่ๆก็จะปรับ นายกฯก็คงต้องบอกว่าตรงนั้นตรงนี่ต้องขันน็อต ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่นายกฯพิจารณา และยังพูดในหลักการเดิมคือให้ร่วมกันทำงาน และตั้งใจทำนโยบายให้บรรลุผลโดยเร็ว เพราะประชาชามีความคาดหวัง