สส.แดง ลุ้นจุดพลิก ค่ายสีส้ม รอวาระ‘นายใหญ่’ ไล่‘น้ำเงิน’

จับกระแสเกมข่มเกมแตกหักระหว่าง "พรรคเพื่อไทย" กับ "พรรคภูมิใจไทย" ฉากจบสุดท้ายจะถึงขั้นเขี่ยพรรคสีน้ำเงินหรือไม่ หรือทางสุดท้ายต้องใช้ไพ่ "ยุบสภาฯ"
KEY
POINTS
- ปรับ ครม.สมการของรัฐบาลแพทองธาร จะยังมี “อนุทิน ชาญวีรกูล”นั่ง รมว.มหาดไทย จังหวะไทม์ไลน์ยังไม่ใช่ห้วง "พรรคเพื่อไทย” เล่นบทแตกหัก “พรรคครูใหญ่”
- เกมเขี่ยเกมข่ม "พรรคสีน้ำเงิน" ของ "ค่ายแดงเพื่อไทย" จึงต้องฉวยจังหวะไทม์ไลน์ คดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล หากเสียง สส.ปีกส้ม หายไป 25 สส. เท่ากับเปิดอำนาจต่อรองของ "เพื่อไทย" ให้มากขึ้น
- อาวุธลับ สว.สีน้ำเงิน อาจงัดเกมต่อรอง "เพื่อไทย” ด้วยการยื่นถอดถอนนายกฯ ในข้อหาไม่ซื่อสัตย์สุจริต
- อ่านเกม "นายใหญ่" เดินเกมรุกข่ม“ก๊กครูใหญ่” จึงต้องประคับปร
ฝุ่นการเมืองยังตลบอบอวล แม้จะเป็นช่วงการเมืองปิดสมัยประชุมรัฐสภา กลิ่นปรับคณะรัฐมนตรีก็ถูกโยนหินถามทางผ่านทางหน้าสื่อ
เมื่อ “เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ต้องชะลอออกไปก่อน เพราะกระแสต้านทั้งในและนอกสภาฯ รอจังหวะเปิดสมัยประชุมรัฐสภา 3 ก.ค.2568 คงได้เห็นท่าทีของแกนนำรัฐบาล “เพื่อไทย” จะขยับหมากทางการเมืองอย่างไร เพื่อลดแรงต้านทั้งหมด
กลเกมในสภา ปีกพรรคภููมิใจไทย พรรคเบอร์ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล เลือกสงบศึก ไม่สุมไฟขัดแย้งให้ร้าวลึกในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล
แต่ก็ยังเล่นบทสองหน้า ในหมูู่คนการเมือง“ก๊กน้ำเงิน” ใช้องคาพยพ “สว.สีน้ำเงิน” ออกมาขยับโชว์ จังหวะคัดค้าน “กาสิโน” ผ่านร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่รอคิวอภิปรายในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ
จังหวะปิดสมัยประชุมรัฐสภา มีเสียงเชียร์จากผลสำรวจความคิดเห็นของ “นิด้าโพล” รวมทั้งมีเสียงยุเสียงหนุนภายใน “พรรคเพื่อไทย” ต้องการให้มีการปรับ ครม. เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน ในห้วงที่กำลังเผชิญกับการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ ที่ซึมลึกไปถึงระดับรากหญ้า
ในแวดวงคอการเมือง ปีกส้มนอกสภาฯ ถึงขั้นโชว์บทวิเคราะห์ ท้าพนันกันเลยว่า ถึงอย่างไร“บิ๊กบอส”แห่ง“เพื่อไทย”จะไม่ทิ้งไพ่ ด้วยการ เขี่ย“พรรคภูมิใจไทย”ออกจากสมการร่วมรัฐบาล ในห้วงที่จะต้องมีการปรับ ครม.ในอีกไม่กี่เดือน
ด้วยปัจจัยหลายอย่างทางการเมือง “สีน้ำเงิน”ยังมีอิทธิฤทธิ์ โชว์พลังผ่าน สว.อยู่ในคอนโทรล ไม่ต่ำกว่า 130 เสียง ทั้งในแง่เล่นบทตรวจสอบทั้งในและนอกสภาฯ โดยเฉพาะเกมถอดถอนที่ สว.ชุดนี้ ยังไม่ใช้อำนาจหน้าที่นี้ ขู่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
อาวุธที่“สว.สีน้ำเงิน”จ้องเดินเกมรุกต่อรอง“พรรคเพื่อไทย” คือข้อหาพฤติการณ์สำคัญ นายกฯมีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกับนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน
“นายกฯ อิ๊งค์” คือกล่องดวงใจของ “นายใหญ่” มีโอกาสเดินเข้าสู่จังหวะอันตรายทางการเมือง หรือ “เรดโซน” ได้ทุกเมื่อ หากเงื่อนไขทุกอย่างสุกงอม ในบริบทแตกหัก “ก๊กน้ำเงิน”
จะเห็นได้จากก่อนหน้านี้ สว.ปีกน้ำเงิน แสดงบทบาท งัดข้อการเดินเกมของรัฐบาลผ่าน “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” หรือดีเอสไอ ที่เข้ามาสอบและเอาผิดกระบวนการเลือก สว. ซึ่งมีโอกาสที่จะล้มกระดาน สว.สีน้ำเงินได้เลยทีเดียว
ปรับ ครม.เที่ยวหน้า สมการของรัฐบาลแพทองธาร จึงยังมี “อนุทิน ชาญวีรกูล”นั่ง รมว.มหาดไทย มท.1 เช่นเดิม เรียกได้ว่า 100% เพราะจังหวะไทม์ไลน์ ยังไม่ใช่ห้วงอารมณ์ที่“พรรคเพื่อไทย” เล่นบทแตกหัก “พรรคครูใหญ่”
ปีกของ สส.แดงเพื่อไทยอ่านเกม และไทม์ไลน์ที่เหมาะสม ถึงห้วงที่เป็นโอกาสเหมาะสมที่สุด ที่เพื่อไทยจะมีอำนาจต่อรองเหนือกว่าค่ายสีน้ำเงิน นั่นคือ จังหวะที่คดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล เดินหน้าเข้าสู่การไต่สวนของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ในจำนวนนี้มี 25 สส.พรรคประชาชน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสภาฯ หากผลออกมาในทางลบ 25 สส.พรรคประชาชนถูกตัดสิทธิการเมือง จะมีผลให้ดุลอำนาจในสภาฯ เกิดการเปลี่ยนแปลง
พรรคประชาชนจะเหลือ สส. 118 เสียง จาก 143 เสียง พลพรรคก๊กส้ม จะไม่ใช่เบอร์ 1 ในสภาฯ อีกแล้ว
เมื่อจำนวน ตัวเลข สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เหลือเพียง 469 คน ในปัจจุบันมี สส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ปฏิบัติหน้าที่ได้ 494 คน
ฉะนั้น เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องมีมากกว่า 235 เสียง ยิ่งจับสมการพรรคร่วมรัฐบาล นาทีนี้มีจำนวน 323 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 142 เสียง พรรคภูมิใจไทย 70 เสียง
ภายใต้บริบทนี้ “นายใหญ่”แห่งเพื่อไทย จึงไม่สนเกมอำนาจต่อรองของ“พรรคภูมิใจไทย”ในเวลานี้ เพราะยังมีจังหวะ มีโอกาสเขี่ย“พรรคสีน้ำเงิน”ออกจากสมการรัฐบาลได้ ในห้วงหลังจาก สส.ก๊กส้ม 25 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง
มีการประเมินในคีย์แมนก๊กส้มว่า เกมเชือด 25 สส.พรรคประชาชน อาจเกิดไวสุด ก่อนเลือกตั้งทั่วไปปี 2570 นาทีนั้น ผู้นำพรรคหน้าฉากอย่าง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน จะต้องถอยฉากไปอยู่กลุ่มคณะก้าวหน้า รุ่นที่ 3 ต่อจาก “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”
ยังไม่นับรวมแรงแค้น สะสมความอึดอัดทางการเมืองของคนการเมืองในก๊กแดงเพื่อไทย ซึ่งไม่พอใจการชิงเหลี่ยมทางการเมืองของ “พรรคภูมิใจไทย” หลายต่อหลายครั้งเป็นทุนเดิม
ถ้ายังคุยกันไม่ได้อีก ในหมู่แกนนำ “แดง” และ “คีย์แมนน้ำเงิน” ทางสุดท้ายอาจต้องไปสุดทางคือ “ยุบสภาฯ” เลือกตั้งกันใหม่ ให้รู้แล้วรู้รอด แต่กว่าจะไปถึงอำนาจสุดท้ายที่นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” จะใช้อำนาจยุบสภาฯ คงต้องเป็นจังหวะการเมือง ที่ได้เปรียบที่สุดของ พรรคเพื่อไทย
ต้องยอมรับว่า ในพื้นที่สมรภูมิทางการเมือง โดยเฉพาะภาคอีสาน คือภูมิภาคที่จำนวน สส.มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลได้มากที่สุด
อ่านเกม ชิงโอกาสรุกขี่ เดินเกมรุกข่ม“ก๊กครูใหญ่”สีน้ำเงิน “บิ๊กบอส”แห่งเพื่อไทย จึงต้องประคับประคองรัฐบาลลูกสาว ให้ฝ่ากระแสไปให้ได้ อย่างราบรื่นที่สุด
ดังนั้น การปรับ ครม.จึงต้องมาก่อน เรื่องยุบสภาฯ และ“พรรคสีน้ำเงิน” ก็ยังได้ไปต่อในสมการพรรคร่วมรัฐบาล จนกว่าจะถึงเวลาที่เพื่อไทยได้เปรียบสูงสุด