ปักษ์ใต้ยุค 'หัวเชือกวัวชน' ธรรมนัส ทาบรัศมี 'สีฟ้า - สีน้ำเงิน'

ปักษ์ใต้ยุค 'หัวเชือกวัวชน' ธรรมนัส ทาบรัศมี 'สีฟ้า - สีน้ำเงิน'

สมรภูมิเปลี่ยน “ธรรมนัส” ตอกเสาเข็มกล้าธรรม ทาบรัศมีพรรคบ้านใหญ่ “สีฟ้า - สีน้ำเงิน” เขย่าสีน้ำเงินเข้มดีเอ็นเอลุงตู่

บริบทการเมืองปักษ์ใต้ เข้าสู่ยุคหัวเชือกวัวชน ตัวตนคนใต้สะท้อนผ่านเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 คนใจนักเลงคือผู้ชนะ

20 กว่าปีที่แล้ว มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งเรื่อง “หัวเชือกวัวชน” ของ อาคม เดชทองคำ ที่พยายามอธิบายตัวตนคนใต้ผ่านกีฬาชนวัวชนโค สนามชนโค และการพนัน โดยอาคมทำการศึกษาวิจัยในพื้นที่นครศรีธรรมราช 

เวลานั้น มีนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์งานวิจัยชิ้นนี้ ตำหนิผู้วิจัยกำลังด่าคนใต้ เนื่องจากภาพจำของคนภาคอื่นคือ ประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ มีความตื่นตัวทางการเมืองสูง มีอุดมการณ์ จึงเลือกพรรค ปชป. ไม่เอาธนกิจการเมือง

ผลการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ที่เพิ่งผ่านไป ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครพรรค ปชป.ได้ 4 พันคะแนน บ่งชี้ว่า คนเมืองคอนเมินการเมืองสุจริตแบบนายชวน

นักวิชาการปักษ์ใต้บางคนจึงสรุปว่า ชัยชนะของพรรคกล้าธรรมที่เมืองคอน เขต 8 สะท้อนการเมืองยุคหัวเชือกวัวชน ยุคบ้านใหญ่ใจนักเลง 

การเลือกตั้ง สส.ปี 2566 เฉพาะภาคใต้ พรรค ปชป. ยังได้ สส.มากที่สุด 17 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย รองลงไปได้ 12 ที่นั่ง และที่เหลือแบ่งกันไปทั้งพรรคประชาชาติ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคก้าวไกล(พรรคประชาชน)

ส่อง 17 สส.เขตค่ายสีฟ้า มาจากสายบ้านใหญ่ทั้งสิ้น แม้แต่ สส.ตรัง 2 คน ก็แปะป้าย “บ้านใหญ่โกหนอ” ส่วนสายบ้านนายชวนนั้นสอบตกหมด 

การกลับมาของนายใหญ่

นับแต่การเลือกตั้ง สส. ปี 2544 จวบจนถึงปี 2566 แบรนด์ทักษิณ - เพื่อไทย ไม่ใช่ทางเลือกของคนใต้

กระทั่งการเลือกตั้งปี 2562 ทักษิณประสบความสำเร็จในการใช้ “พรรคประชาชาติ” เป็นธงนำในสนามเลือกตั้งภาคใต้ตอนล่าง แต่ภาคใต้ตอนบน พรรคเพื่อไทยก็ยังเจาะไม่ได้

กูรูการเมืองบางคนจึงมองว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า “พรรคกล้าธรรม” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อาจเป็นตัวแทนนายใหญ่ลุยสมรภูมิภาคใต้ตอนบน

ปักษ์ใต้ยุค \'หัวเชือกวัวชน\' ธรรมนัส ทาบรัศมี \'สีฟ้า - สีน้ำเงิน\'

ชั่วโมงนี้ พรรคกล้าธรรม มี สส.ปักษ์ใต้แล้ว 4 คนคือ

  • ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา
  • สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส 
  • อามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส
  • ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ว่าที่ สส.นครศรีธรรมราช 

ไม่นับ 2 สส.สุราษฎร์ธานี สายกำนันศักดิ์-พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่ฝากเลี้ยงไว้ในพรรครวมไทยสร้างชาติคือ พันธ์ศักดิ์ บุญแทน และปรเมษฐ์ จินา

เชื่อว่า นับจากนี้ไป นักการเมืองท้องถิ่น “ใจนักเลง” แบบ สจ.บิ๊กโอ จะตบเท้าเข้ามาที่พรรคกล้าธรรมมากขึ้น รวมถึง สส.ใต้ ที่สังกัดพรรคลุงป้อม หรือพรรคดีเอ็นเอลุงตู่ ก็คิดจะขยับมาร่วมงานกับผู้กอง

อันดามันสะเทือน

เนวิน ชิดชอบ จับมือกับ “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ และ “เจ๊เปี๊ยะ” นาที รัชกิจประการ พยายามตอกเสาเข็ม สส.สีน้ำเงินในภาคใต้มาแต่ปี 2554 

ปักษ์ใต้ยุค \'หัวเชือกวัวชน\' ธรรมนัส ทาบรัศมี \'สีฟ้า - สีน้ำเงิน\'

ปี 2562 ภูมิใจไทย ปักธง สส.ปักษ์ใต้ ได้ 8 ที่นั่ง และอีก 4 ปีถัดมา ได้ สส.เพิ่มเป็น 12 ที่นั่ง(ปัจจุบันเหลือ 11 ที่นั่ง) 

สส.ใต้ค่ายสีน้ำเงินส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนอันดามัน กระบี่ 3 ที่นั่งคือ

  1. กิตติ กิตติธรกุล
  2. ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ
  3. สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง

พังงา-อรรถพล ไตรศรี

สตูล 2 ที่นั่ง พิบูลย์ รัชกิจประการ และวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์

ระนอง คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์

โซนอ่าวไทยยังมีประปราย นครศรีธรรมราช 2 ที่นั่ง ษฐา ขาวขำ และมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล(ใบแดง)

สงขลา-ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ และสุราษฎร์ธานี-พิชัย ชมภูพล

สำหรับ นราธิวาส-ซาการียา สะอิ มีแนวโน้มจะย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม สมัยหน้า 

การเลือกตั้ง สส.สมัยหน้า “โกเกี๊ยะ” จะต้องเจอศึกใหญ่ เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศจะนำพรรคกล้าธรรม ลุยตั้งแต่สนามชุมพร ยังนราธิวาส 

อนาคตบ้านใหญ่สีฟ้า

พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของ 3 สหายคือ ต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค , นายกชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และแทน-ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช

ปักษ์ใต้ยุค \'หัวเชือกวัวชน\' ธรรมนัส ทาบรัศมี \'สีฟ้า - สีน้ำเงิน\'

เดิมที “สจ.บิ๊กโอ” ก็เป็นเด็กปั้นของ “สส.แทน” ชัยชนะ และเป็นนักการเมืองพันธุ์หัวเชือกวัวชนเหมือนกัน มีความจำเป็นต้องย้ายไปกล้าธรรม

ย้อนไปเมื่อปี 2566 ปชป.เวอร์ชั่น “เพื่อนเฉลิมชัย” ได้ สส. 25 ที่นั่ง เฉพาะ สส.ปักษ์ใต้ ได้ 17 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 3 คน โดย ปชป.ได้ สส.เป็นกอบเป็นกำจาก 2 จังหวัดคือ สงขลา และนครศรีธรรมราช

ซุ้มบ้านใหญ่สงขลา มี สส.สงขลา 5 คน ประกอบด้วย เดชอิศม์ ขาวทอง, สุภาพร กำเนิดผล, ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง, สมยศ พลายด้วง และ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่

ซุ้มบ้านใหญ่เมืองคอน 6 คน ประกอบด้วย ชัยชนะ เดชเดโช, พิทักษ์เดช เดชเดโช, ทรงศักดิ์ มุสิกอง, ยุทธการ รัตนมาศ, อวยพรศรี เชาวลิต และราชิต สุดพุ่ม

ไม่แปลกที่กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย จะเลือกเข้าร่วมรัฐบาลแพทองธาร เพื่อสะสมทรัพยากร เนื่องจากสนามปักษ์ใต้ ไม่มีที่ยืนให้กับอุดมการณ์การเมืองสุจริต

ลุงตู่-ลุงป้อมวังเวง

พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อานิสงส์จากกระแสลุงตู่ จึงกลายเป็นพรรคอันดับ 3 รองจาก ปชป. และภูมิใจไทย

ซุ้มบ้านใหญ่ปักษ์ใต้ โดยการนำของ ชุมพล จุลใส มี สส.ชุมพร 3 ที่นั่งคือ วิชัย สุดสวาสดิ์ ,สันต์ แซ่ตั้ง และสุพล จุลใส

สุราษฎร์ธานี สายชุมพล กาญจนะ 4 ที่นั่งคือ กานสินี โอภาสรังสรรค์, พิพิธ รัตนรักษ์ ,ธานินทร์ นวลวัฒน์ และ วชิราภรณ์ กาญจนะ 

นครศรีธรรมราช-พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล , พัทลุง-นิติศักดิ์ ธรรมเพชร และสงขลา-ศาสตรา ศรีปาน

ส่วนวัชระ ยาวอหะซัน ลูกชายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส น่าจะย้ายจาก รทสช.ไปสังกัดพรรคประชาชาติ

พรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังเหลือ สส.ใต้ 4 คนคือ สุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช, ฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา, ทวี สุระบาล สส.ตรัง และคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี

ประเมินว่า สส.ใต้กลุ่มนี้ จะทิ้งลุงป้อมไปสังกัดพรรคบ้านใหญ่ที่มากด้วยทรัพยากรสำหรับการเลือกตั้ง

สถานการณ์พรรคลุงป้อม-ลุงตู่ น่าจะมี สส.หลายคนขยับขยายไปสังกัดพรรคอื่น โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม 

จากการเมืองสุจริตแบบนายชวนเมื่อ 3 ทศวรรษที่แล้ว สนามการเมืองปักษ์ใต้ได้เข้าสู่ยุคบ้านใหญ่ หรือหัวเชือกวัวชนโดยสมบูรณ์แล้ว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์