ดีเอสไอ สอบเข้ม 3 กลุ่มเอกชน-เค้นวิศวกร สางปมตึก สตง.ถล่ม

ดีเอสไอ สอบเข้ม 3 กลุ่ม สางปมตึก สตง.ถล่ม พบเอกสารลายเซ็นซ้ำซ้อน อาจถูกปลอมชื่อ-ลงนามแทนวิศวกร 51 ราย เรียก ‘อิตาเลียนไทยฯ-ไมน์ฮาร์ท’ เค้นละเอียด
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2568 ที่ห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กทม. พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีฮั้วประมูล เปิดเผยความคืบหน้าคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ว่า วันนี้มีการนัดสอบปากคำ พยาน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ตัวแทน บริษัทอิตาเลียนไทยฯ และ บริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ในนามกิจการร่วมค้า วิศวกรในกิจการร่วมค้า PKW จำนวนกว่า 40 ราย และ กรรมการ บริษัทไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) ผู้ออกแบบตึก
สำหรับกลุ่มวิศวกร พ.ต.ท.อมร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบ รายชื่อและลายเซ็นซ้ำซ้อนในเอกสารรายงานควบคุมงานสัปดาห์กว่า 20–30 สัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 51 รายชื่อ แต่เบื้องต้นสามารถออกหมายเรียกได้ 40 รายเนื่องจากขาดข้อมูลบางส่วนในวันนี้ ดีเอสไอสอบปากคำ วิศวกรล็อตแรก 7 ราย จาก 10 รายที่นัดหมาย เพื่อให้ตรวจสอบลายเซ็นในเอกสารว่าตรงกับลายเซ็นจริงหรือถูกปลอมแปลง เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าถูกปลอมทั้งหมดหรือไม่ ต้องสอบสวนเป็นรายกรณี
ขณะเดียวกัน ได้เชิญตัวแทนจาก บริษัทอิตาเลียนไทยฯ เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับ กระบวนการซื้อซองประมูล การเป็นกิจการร่วมค้า การแบ่งงาน และโครงสร้างการรับเหมาช่วง ตลอดจนตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องสถานะนิติบุคคลของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ว่าเป็นบริษัทไทยตามเงื่อนไขหรือไม่ หลังพบประเด็นสัดส่วนการถือหุ้น 51:49 และการดำเนินคดีนอมินีไปก่อนหน้านี้
พ.ต.ท.อมร กล่าวอีกว่า จากเอกสารกว่า 100 ลังที่ตรวจยึดได้จาก 26 ตู้คอนเทนเนอร์ในไซต์งาน เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) ดีเอสไออยู่ระหว่างการคัดแยกว่าเอกสารใดเกี่ยวข้องกับสัญญา, แบบแปลน, วัสดุ และการเงิน เพื่อใช้ประกอบการสอบสวน โดยคาดว่าจะเชิญ เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง มาร่วมตรวจสอบในสัปดาห์นี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ ยังมีการนัดสอบปากคำนายธีระ วรรธนะทรัพย์ กรรมการบริษัทไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ออกแบบอาคาร เพื่อชี้แจงกระบวนการออกแบบตั้งแต่ต้น รวมถึงปม การขอแก้ไขแบบถึง 9 ครั้ง ซึ่งดีเอสไอพบว่ามีข้อสงสัยในขั้นตอนการขอแก้ไขครั้งที่ 4 และ 6
สำหรับความคืบหน้าการสอบสวน พ.ต.ท.อมร กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นสอบพยาน ยังไม่มีการเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ต้องหา แต่ทุกข้อมูลจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนพิจารณาว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหรือไม่