'กมธ.ปราบโกง' สอบ 'ผู้ว่าฯ สตง.' ปมตึกถล่ม ลั่นต้องเค้นความจริง

ที่รัฐสภา มีการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ  สภาฯ ที่มีนายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เป็น ประธาน กมธ. โดยมีวาระตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งถล่มในช่วงเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อ 28 มี.ค.68 ซึ่งเชิญ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าฯ สตง. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และอธิบดีกรมแรงงาน เข้าชี้แจง

ทั้งนี้นายฉลาด ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการตรวจสอบเพื่อให้ความกระจ่างกับประชาชน โดยจะตรวจสอบหาข้อเท็จจริง โดยผู้ว่าฯ สตง. ที่เชิญมานั้นต้องให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน  ซึ่งการชี้แจงใน กมธ.สามารถพูดความจริงบนฐานของข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ไม่มีใครสามารถปรักปรำ หรือทำร้ายผู้ว่าฯ สตง.ได้ สำหรับคำถามส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่ยังไม่ได้รับคำตอบ เช่น เรื่องข้อมูลการบริหารสัญญา ทั้งนี้ตนยืนยันว่า ไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่การเชิญ รมว.อุตสาหกรรมด้วยนั้นเพื่อสอบถามต่อมาตรการการควบคุม ตรวจสอบคุณภาพเหล็ก การตรวจสอบก่อนนำไปก่อสร้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมดังกล่าว นายมณเฑียร ได้เข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน 

ขณะที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส  อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ฐานะที่ปรึกษา กมธ. ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมชี้แจง ว่า การออกแบบอาคารนั้นตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะทำหลังจากที่ต้นพ้นตำแหน่งไป 3-4 ปีแล้ว ดังนั้นจึงเป็นอำนาจของผู้บริหารชุดถัดไปจากชุดของตนที่จะพิจารณา ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุดของตนคือ การคัดเลือกพื้นที่ก่อสร้าง

"การชี้แจงของผมต่อ กมธ. น่าจะเป็นประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเก่า ทั้งก่อนที่จะมีการออกแบบก่อสร้าง จากผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน ผมในฐานะอดีตผู้ว่าฯ สตง. ปี 2557-2560 มีส่วนเลือก และกำหนดให้ใช้ที่ดินแปลงนี้ ใช้ในการก่อสร้างอาคารหลังใหม่" นายพิศิษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีภาพถ่ายร่วมกันกับ นายบิงลิน วู และนายหลง เฉวียนวู นักธุรกิจชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง สตง. นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้รับจ้างแล้ว ซึ่งผู้รับจ้างหลักคือ บริษัท อิตาเลียนไทย ส่วน บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น เป็นผู้ร่วมค้า ดังนั้นการถ่ายรูปร่วมกันนั้นไม่มีประเด็น  ทั้งนี้ตนไม่ได้ดูว่าเป็นใคร มีฐานะอะไร หรือสมอ้างเข้ามาถ่ายรูป ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ดูจากสายตาหากปกติไม่มีเหตุอันควรสงสัย อาจไม่เอะใจว่าคนพวกนี้จะมายืนข้างๆล้อมหน้าล้อมหลัง หรือมีประโยชน์ทับซ้อนอย่างอื่นหรือไม่ 

นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อประเด็นการเป็นนอมินีแอบแฝงของบริษัทร่วมค้า ว่า ในระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ สามารถมีกิจการร่วมค้าได้ แต่บริษัทต้องมีผลงานไม่เกิน 50%  ของวงเงินงบประมาณ ทั้งนี้ผู้ร่วมค้าต้องเป็นบริษัทคนไทย จดทะเบียนในประเทศไทย สามารถทำสัญญาร่วมค้ากันได้ และนำมาเสนอราคาต่อได้  ส่วนจะมีนอมินีแอบแฝงในกิจการหรือไม่ ขณะนั้นไม่มีระเบียบกำหนดว่าจะต้องไปตรวจสอบลึกถึงกิจการของนอมินี

"ตั้งแต่เกิดเหตุตึกถล่ม พนักงานของดีเอสไอ ทำหน้าที่แล้ว แม้จับกุมตัวแต่ไม่สามารถส่งฟ้องได้ สะท้อนว่า การตรวจสอบนอมินีไม่ใช่จะตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า แต่ต้องพิสูจน์เรื่องเส้นทางการเงิน เพราะตามระเบียบกำหนดว่า ผู้แข่งขันประมูลโครงการ มีการฮั้วงานในลักษณะสมยอม เอื้อกันถือหุ้นไขว้ไปมา เป็นบริษัทในเครือเดียวกันแล้วมาแข่ง เชื่อว่าจะต้องตรวจสอบเรื่องเหล่านี้แน่นอน" นายพิศิษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุม กมธ.ดังกล่าว ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ และบันทึกการประชุม การชี้แจงของฝ่ายต่างๆ

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์