ย้อน14ตุลาฯช่วย13กบฏ สู้รัฐบาลเผด็จการ
ย้อนเบื้องหลัง 14 ตุลาฯ ช่วย 13 กบฏรอดคุก เคลื่อนไหวล้มรัฐบาลเผด็จการ
วุฒิสภา ร่วมกับคณะกรรมการรำลึกและเชิดชูเกียรติ "วัน 14 ตุลา ประชาธิปไตย" ได้จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง"เบื้องหลัง 14 ตุลา ประชาธิปไตย" โดยเชิญนายเทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ นายยุทธนา มุกดาสนิท นายพีรพล ตริยะเกษม และนายสุวัฒน์ ทองธนากุล เข้าร่วมเสวนา ดำเนินรายการโดยนายคำนูญ สิทธิสมาน สว.สรรหา
โดยนายพีรพล กล่าวว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เกิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการช่วย 13 กบฏผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีนักศึกษาและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รวมอยู่ด้วยถูกจับไป และขณะนั้นอยู่ในช่วงการสอบ ซึ่งตรงกับวันที่ 8 ต.ค. 2516 จึงคิดว่าถ้านักศึกษาไม่ได้สอบ อาจถูกลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษา จึงรวมนักศึกษามาชุมนุม ทำให้องค์การนักศึกษาต้องคิดดำเนินการ แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้นักศึกษาไม่มีความคิดล้มรัฐบาล แต่ทำไปเพราะความรักเพื่อนไม่อยากให้เพื่อนติดคุก
"ขณะนั้นรัฐบาลได้ออกข่าวว่าได้ตรวจกระเป๋าแล้วพบหนังสือคอมมิวนิสต์ แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นหนังสือของห้องสมุด ดังนั้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดจึงเป็นการกระทำของรัฐบาล ส่วนการวางแผนยึดมหาวิทยาลัยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ชนวนเกิดเหตุทั้งหมดจนเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลา เนื่องจากทางรัฐบาล ได้มีการปล่อยข่าวยั่วยุ ทั้งล้มรัฐบาล รวมถึงราชวงค์ ซึ่งไม่เป็นความจริง" นายพีรพล กล่าว
นายยุทธนา กล่าวว่า ขณะนั้นกำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 4 คณะวารสารศาสตร์ และได้มีโอกาสไปฝึกงานกับหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ซึ่งเห็นการทำงานของรัฐบาลจนรู้สึกเกิดความรังเกียจ ต่อมานายกองค์การนักศึกษามหาวิทยลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้มีการเรียกประชุมช่วงบ่ายวันที่ 8 ต.ค. โดยมีมาตราการสรุปมาว่าจะทำอย่างไรให้นักศึกษามารวมชุมนุมให้มากที่สุด
"เลยมีการเสนอให้ปิดห้องสอบตึกศิลปศาสตร์ เนื่องจากวันนั้นมีนักศึกษากว่า 800 คน จะต้องมาทำการสอบ เลยมีการปิดห้องสอบด้วยการนำปูนปาสเตอร์ไปหยอดปิดรูกุญแจ และเอาโซ่มาล่ามประตูขึ้นชั้น 2 ของอาคาร ทั้งยังมีการทำให้ลิฟท์ไม่สามารถใช้งานได้ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นไอเดียใคร เพื่อให้นักศึกษาไม่สามารถเข้าสอบได้ และมารวมตัวที่บริเวณลานโพธิ์ ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นการชุมนุม ต่อมาก็มีขึ้นป้ายผ้า ซึ่งตรงกับช่วงเวลา 08.00 น. นักศึกษามีมากขึ้น และเต็มพื้นที่ลานโพธิ์ และพอเริ่มมีการปราศรัยคนก็มีเยอะขึ้น สำหรับความรู้สึกส่วนตัวคิดว่าปัจจุบันมีโอกาสเกิดเหตุการณ์คล้ายกับ 14 ตุลา และจะรุนแรงกว่ามาก" นายยุทธนา กล่าว
ขณะที่ นายเทียนชัย กล่าวว่า ส่วนตัวมีชีวิตอยู่กับการเคลื่อนไหวและความตายจำนวนมาก และมีหน้าที่คอยวิเคราะห์ข่าวกับสถานการณ์การชุมนุม ส่วนเหตุการณ์ที่จำได้ขึ้นใจ คือได้จัดนักศึกษาอาชีวะ จำนวน 11 คน มาเฝ้าบริเวณเสาหอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย 11 คน เหลือรอดเพียงคนเดียว เพราะมีแค่ปืนสั้น
"ตอน 14 ตุลา ผมมีกลุ่มอยู่แล้ว และได้บอกเพื่อนว่าอย่าไปร่วมเรื่องรัฐธรรมนนูญ เพราะจะถูกจับหมด สุดท้ายก็เป็นตามนั้น โดยสิ่งที่กลุ่มอิสระตัดสินใจไม่เคลื่อน เพราะเมื่อกลุ่มแรกโดนจับ กลุ่มเราก็จะได้ขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อ และผมได้ทำศูนย์ข่าว วิเคราะห์ข่าวและส่งข่าวให้ขบวนการเคลื่อนไหว ซึ่งวิธีการหาข่าวช่วงนั้นทำง่าย เพราะสันติบาลคอยปล่อยข่าว อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีนักเรียนอาชีวะ 14 ตุลา ไม่มีวันชนะ เพราะนักเรียนอาชีวะพร้อมพลีชีพ กล้าที่จะสู้ ทั้งนี้ผมเป็นนักเขียน แต่มี 2 เรื่องที่ไม่เคยเขียน คือเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ2519 และ 14 ตุลาฯ2516"นายเทียนชัย กล่าว
ด้าน นายสุวัฒน์ กล่าวว่า เป็นนักข่าวตั้งแต่เรียนปี 1 โดยทำงานที่หนังสือพิมพ์ประชาธิปไตย ทำให้เป็นกลไกหนึ่งในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวของนักศึกษา อีกทั้งประเทศไทยช่วงนั้น มีลักษณะเผด็จการ ประชาชนนักศึกษาก็เก็บสะสมความไม่พอใจมานาน และเหตุที่ตีพิมพ์ข่าวก่อนว่าคนจะเต็มพื้นที่ลานโพธิ์นั้น เป็นการรายงานข่าวเชิงวิเคราะห์