ไม่วางใจ100%ยังปิดโรงเรียน-ผามออีแดง

ศรีสะเกษ-ชาวบ้านภูมิชรอล ยังมีความกังวลต่อภัยสงคราม ยังปิดการท่องเที่ยวผามออีแดงและปิดโรงเรียนไปอีกระยะ
ในช่วงเช้าของวันนี้ (12 พ.ย.) ที่หมู่บ้านภูมิชรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ภายหลังจากศาลโลกได้อ่านคำตัดสินกรณีคดีปราสาทพระวิหาร ยังมีที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังไม่มั่นใจว่าจากนี้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายจะได้เริ่มเปิดการเจรจา กันได้หรือไม่ และเมื่อไหร่จะได้มีความมั่นใจจริง นั้นคือการเปิดการท่องเที่ยวปราสาทเขาพระวิหารที่สามารถเดินทางขึ้นบันไดขั้นแรกได้จากฝั่งประเทศไทยได้ และพัฒนาตลาดเชิงเขาร่วมกันเช่นเดิม
นายชิน ประสานจิตร อดีตเหยื่อสงครามที่ต้องสูญเสียขาตนเองไปข้างหนึ่ง จากการถูกระเบิด เปิดเผยว่า ตนได้รับฟัง เฝ้าดูการอ่านคำตัดสินของศาลโลกโดยตลอด แต่ก็ไม่เข้าใจสักเท่าใด จนมารับฟังการแถลงข่าวของฝ่ายนายกรัฐบาล ฝ่ายที่ไปต่อสู้อยู่ต่างประเทศ จึงพอที่จะเข้าใจว่า ศาลโลกไม่ได้ตัดสินอะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อประทศใด ทั้งกัมพูชา และทั้งไทย ด้วย ซึ่งหากฟังคราวๆ ก็จะหนักใจมากเพราะในเมื่อศาลไม่ชี้ ก็จะต้องมาเจรจากัน ซึ่งเมื่อไหร่ไม่รู้ และผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ และหากเจรจากันได้ก็ดี แต่หากเจรจาไม่ได้ ก็จะนักมากในสถานการณ์ชายแดน แต่เบื้องต้นผลออกมาเช่นนี้ก็ดีเช่นกัน ประชาชนก็รอลุ้นต่อไปว่ารัฐบาลทั้งสองฝ่ายจะคุยกันเช่นไรต่อไป
ด้านนางวรรณี ชนะผล ราษฎรบ้านภูมิชรอลใต้ เปิดเผยว่า หากรัฐบาลทั้งสองฝ่ายเห็นแก่ประชาชนสองประเทศ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งหากมีการเปิดเจรจา และบูรณาการร่วมกันไม่มีพรมแดน พัฒนาชายแดนพื้นที่ร่วมกัน เหตุการณ์ต่างๆ ก็จะดี แต่หากไม่ใช้เช่นนี้ และอาจจะเกิดเหตุร้ายตามมา ประชาชนอย่างตนก็พร้อมที่จะรับสถานการณ์ จะเกิดอะไรก็เกิด ตายก็ตาย จะไม่ยอมอพยพหลบหนีไปไหน เพราะเกิดที่นี่ ก็จะขอตายที่นี้ หากรัฐบาลคุยกันไม่ได้ ก็ลาออกไป
อย่างไรก็ดี ในเช้าของวันนี้ประชาชนเริ่มออกมาเปิดร้านค้า ออกมาจากบ้าน นั่งจับเข่าคุยกัน ประชาชนที่ได้อพยพออกนอกพื้นที่ไปก่อนหน้านี้ได้เริ่มกลับมาบ้านตนเองเช่นเดิม แต่โรงเรียนที่ได้สั่งปิดไปกว่า 30 โรงตามแนวชายแดน ยังคงปิดเรียนต่อไปอีกระยะหนึ่งในวันนี้