ยึดทีวี-สั่งหยุดราชการ บุกทำเนียบต่อวันนี้

ยึดทีวี-สั่งหยุดราชการ บุกทำเนียบต่อวันนี้

"สุเทพ" ยึดจอทีวีอ่านแถลงการณ์ กปปส. ฉบับที่ 1 ให้ข้าราชการทั่วประเทศหยุดงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมระดมมวลชนลุยต่อ บุกทำเนียบวันนี้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้เปิดแถลงข่าวเมื่อเวลา 16.35 น. วานนี้ (1 ธ.ค.) อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ของ กปปส. โดยระบุว่า สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีตำรวจ ศอ.รส. (ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย) มุ่งทำร้ายประชาชน ดังนั้นประชาชนต้องดำเนินการต่อไปเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ทาง กปปส. ขอประกาศให้วันที่ 2 ธ.ค. เป็นต้นไป เป็นวันหยุดงานของข้าราชการทั่วประเทศจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และขอให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องงดออกอากาศข่าวของทางรัฐบาล เพราะมีแต่จะสร้างความสับสนให้กับประชาชน โดยขอให้ทุกสถานีถ่ายทอดเฉพาะข่าวจาก กปปส. และรายงานสถานการณ์จริง

การแถลงข่าวของนายสุเทพ มีการเชื่อมสัญญาณไปยังสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีเกือบครบทุกช่อง หลังจากส่งมวลชนเข้าไปกดดันและเจรจาตลอดทั้งวัน

สำหรับการเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ขับไล่ระบอบทักษิณจากทุกเวที ได้กระจายกันไปควบคุมพื้นที่ส่วนราชการสำคัญตามที่ประกาศไว้ล่วงหน้า แต่ก็มีที่เหนือความคาดหมาย คือการนำมวลชนเข้าไปกดดันและเจรจากับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี เพื่อให้ออกอากาศการแถลงของ กปปส.ทุกครั้ง

บรรยากาศในช่วงเช้าที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุเทพ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยซักซ้อมความเข้าใจกับผู้ชุมนุมว่า มวลชนที่อยู่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน จะเป็นหลักเคลื่อนไปตามหน่วยงานราชการต่างๆ ที่กำหนดไว้ เนื่องจากอยู่ใกล้ ขณะที่มวลชนศูนย์ราชการฯ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งปักหลักรอรักษาฐานที่มั่นเอาไว้ และอีกส่วนหนึ่งเดินเท้าร่วมกับนักธุรกิจชาวสีลม และ นายสกลธี ภัททิยกุล ไปที่กระทรวงพาณิชย์ ส่วนที่เหลือขอให้ขึ้นรถยนต์ไปเติมจำนวนมวลชนที่จะไปสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ

ทั้งนี้ ขบวนได้เคลื่อนพร้อมกันเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าขบวนที่มีนายสกลธีเป็นผู้นำ แทนที่จะเลี้ยวไปกระทรวงพาณิชย์ ย่านสนามบินน้ำ กลับเดินทางไปยึดสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อควบคุมการออกอากาศ จากนั้นเวลา 10.40 น. นายสุเทพจึงได้ปล่อยขบวนผู้ชุมนุมเดินเท้าไปยึดกระทรวงพาณิชย์อีกขบวนหนึ่ง นำโดย นายทศพล เพ็งส้ม อดีต ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และ นายสาธิต เซกัล กลุ่มประชาคมนักธุรกิจสีลม

สรุปสถานที่ที่ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไป ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ถนนพระรามที่ 4 สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ถนนพหลโยธิน สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถนนพหลโยธิน สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ช่อง 9 ถนนพระรามที่ 9 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถนนวิภาวดีรังสิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 แยกพล.1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล แยกพาณิชยการใกล้ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงแรงงาน โดยที่กระทรวงแรงงาน ผู้ชุมนุมนำโดยนายอิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้คล้องกุญแจบริเวณประตูทางเข้ากระทรวงทั้ง 6 ประตู

ส่วนสถานที่ที่มีผู้ชุมนุมตรึงอยู่แล้ว ได้แก่ กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ แล ะอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาที่แยก พล.1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่การชุมนุมตึงเครียดและมีการใช้แก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่มีอยู่ 2 จุด คือ บริเวณแยก พล.1 ใกล้กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กับแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล

ที่แยก พล.1 กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนประมาณ 2,000 คน เคลื่อนขบวนจากเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ไปตามเส้นทางถนนราชสีมา ผ่านแยกอรทัยด้านหน้าคุรุสภา เข้าไปถึงแยกพล.1 มวลชนกลุ่มนี้มี นายชุมพล จุลใส แกนนำ กปปส.เป็นผู้นำ โดยได้ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศปลุกใจให้สู้ไม่ถอย พร้อมผลักดันผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนหวังทะลวงแนวกั้นของตำรวจเข้าไปยัง บช.น.

เวลา 11.30 น. แกนนำสั่งเปิดเพลงปลุกใจนำมวลชนชายฉกรรจ์เป็นแนวหน้าเข้ารื้อรั้วลวดหนามด้านหน้าแนวกั้นของตำรวจ และโค่นแท่นปูนแบริเออร์บางส่วนจากนั้นปีนข้ามแนวแบริเออร์ชั้นที่ 1 เข้าไปรื้อลวดหนามแนวกั้นชั้นที่ 2 โดยจุดนี้มี พ.ต.อ.ไอศูรย์ สิงหนาท รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ (รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ) และ พล.ต.ต.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์

เวลา 11.35 น. ตำรวจประกาศเตรียมพร้อมยิงแก๊สน้ำตา กระทั่งเวลา 11.45 น. ชายฉกรรจ์ในกลุ่มผู้ชุมนุมได้รื้อลวดหนามผ่านเข้าไปถึงแนวกั้นที่ 2 ทำให้ ผบ.เหตุการณ์ประกาศเตือนห้ามเข้า และประกาศพร้อมใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายผู้ชุมนุม ให้มวลชนถอยหลังกลับไปที่ตั้ง แต่ผู้ชุมนุมไม่ฟัง เวลา 11.55 น. ผบ.เหตุการณ์จึงสั่งใช้แก๊สน้ำชุดแรกกับผู้ชุมนุม

บรรยากาศสุดชุลมุน-ผู้ชุมนุมปาประทัดโต้

ช่วงที่มีการยิงแก๊สน้ำตา บรรยากาศเป็นไปอย่างชุลมุนวุ่นวาย ผู้ชุมนุมบางส่วนแตกฮือ บางส่วนวิ่งไปหยิบกระป๋องแก๊สน้ำตาขว้างกลับไปยังแนวของตำรวจ ทั้งนี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาหลายชุด ชุดละประมาณ 3 นาที กระทั่งสุดท้ายผู้ชุมนุมต้องถอยร่นกลับไปตั้งหลักบริเวณแยกสี่เสาเทเวศร์

กระทั่งเวลา 12.15 น. ได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ชุมนุมบางส่วนได้พยายามบุกเข้าไปบริเวณแนวรั้วของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับปาประทัดใส่ ขณะที่ฝ่ายตำรวจได้เปิดเพลงปลุกใจ และส่งเสียงข่มขวัญ ฝ่ายผู้ชุมนุมยังคงปาประทัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตำรวจต้องตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอีกระลอก แต่กระแสลมตีกลับ ทำให้ควันแก๊สย้อนไปทางฝั่งตำรวจ จนเจ้าหน้าที่หลายสิบนายต้องวิ่งไปหาน้ำเปล่าล้างตา

การเผชิญหน้ายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลา 13.00 น. ตำรวจได้นำรถฉีดน้ำแรงดันสูงประชิดแนวฝั่งตำรวจ ก่อนใช้เครื่องฉีดน้ำฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจนถอยร่นไปจนถึงบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์

ใกล้ทำเนียบมีทั้งแก๊สน้ำตา-ระเบิดขวด

ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่รวมตัวกันอยู่บริเวณแยกนางเลิ้ง ได้เคลื่อนขบวนเข้าประชิดแนวแบริเออร์บนถนนพระรามที่ 5 เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. จากนั้นได้พากันเข้าไปตัดรั้วลวดหนาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งแนวป้องกันอยู่ ได้ประกาศอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติ หากมีผู้ชุมนุมรุกล้ำเข้าไป

อย่างไรก็ดี ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยั่วยุกันไปมา กระทั่งฝ่ายเจ้าหน้าที่ประกาศขู่ว่าจะใช้แก๊สน้ำตา ทำให้ผู้ชุมนุมด้านหน้าแนวแบริเออร์ถอยไปตั้งหลัก

จากนั้นไม่นาน แกนนำได้สั่งจัดขบวนใหม่ และเคลื่อนเข้าประชิดแนวแบริเออร์อีกรอบหนึ่ง พร้อมกับมีเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง โดยตำรวจระบุว่าเป็นเสียงระเบิดปิงปอง แต่ผู้ชุมนุมบอกว่าเป็นเสียงจากการยิงแก๊สน้ำตา จังหวะนั้นผู้ชุมนุมยังพยายามเข้าไปตัดรั้วลวดหนามหน้าแนวแบริเออร์ ทำให้ตำรวจตัดสินใจขว้างแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ ขณะเดียวกันก็มีเสียงคล้ายประทัดยักษ์ดังขึ้นเป็นระยะๆ เช่นกัน

เวลา 12.30 น. มีการขว้างวัตถุที่ทำให้เกิดเสียงดัง คล้ายประทัดยักษ์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (พณิชยการพระนคร) เข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและมีการขว้างปาสิ่งของใส่ นอกจากนั้นยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนแต่งกายคล้ายการ์ด พยายามพังประตูของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครด้วย ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ขว้างปาสิ่งของกลับมายังผู้ชุมนุม จนเกิดการขว้างกันไปมาอย่างชุลมุนนานหลายสิบนาที

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามเข้าประชิดแนวแบริเออร์อีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องฉีดน้ำจากรถสลายฝูงชน ซึ่งเป็นน้ำที่ผสมสารเคมีที่มีฤทธิ์คล้ายแก๊สน้ำตา แต่รุนแรงกว่า และมีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นไป

ต่อมา บริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ด้านที่ติดกับ พณิชยการพระนคร ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นอีก โดยมีการขว้างระเบิดขวดและยิงหนังสติ๊กเข้าไปยังแนวแบริเออร์ ทำให้เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้กลับมา

หลวงปู่พุทธอิสระเจรจาไร้ผล

เวลา 13.45 น. เจ้าหน้าที่ยังคงใช้มาตรการเข้ม ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่มวลชนอีกหลายระลอก ทำให้ หลวงปู่พุทธอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งร่วมขบวนอยู่กับผู้ชุมนุมด้วย เดินนำมวลชนเข้าไปเจรจากับตำรวจ แต่ไม่เป็นผล

กระทั่งเวลา 18.00 น. บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เจ้าหน้าที่ยังคงยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด ช่วงค่ำวันเดียวกันมีข่าวว่ามีการตัดไฟภายในทำเนียบรัฐบาลแล้ว

ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้ชุมนุมจำนวนหลายพันคนได้ไปรวมตัวกันด้านหน้า ตร. ถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. นำโดย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีการเป่านกหวีดและตะโกนด่าทอตำรวจ แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในได้ เพราะมีการระดมกำลังตำรวจมากกว่า 10 กองร้อย ยืนประชิดติดแนวรั้วของ ตร. ทำให้ผู้ชุมนุมต้องปักหลักอยู่ด้านนอก โดยนั่งกันอยู่บนถนนพระรามที่ 1

ที่กระทรวงมหาดไทย กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สรส.) ได้นำมวลชนไปควบคุมพื้นที่กระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ และสามารถเข้าไปได้สำเร็จเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.

ผบ.ทบ.ขอ ตร.หยุดใช้แก๊สน้ำตาไร้ผล

ด้านความเคลื่อนไหวของทหาร ระหว่างที่มีความพยายามของผู้ชุมนุมบุกเข้าสถานที่ราชการสำคัญ และฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา ในช่วงบ่ายวานนี้ (1 ธ.ค.) ปรากฏว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ได้ออกมาแถลงว่า ในฐานะและบทบาทที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง รู้สึกเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่ผู้ชุมนุมพยายามจะบุกรุกเข้าไปยังพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา

"พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรง และอยากให้ทั้งผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยทั้งสองส่วน จึงได้มีการประสานไปยัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระงับการใช้แก๊สน้ำตา และขอให้ผู้ชุมนุมอย่าบุกรุกสถานที่ราชการ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งของทั้ง 2 ฝ่าย และไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะช่วยเร่งประสานกับทางรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่อไป เพราะภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและจะส่งผลกระทบไม่ดีต่อนานาประเทศ" รองโฆษก ทบ.ระบุ

พร้อมกันนี้ กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1 )จัดชุดปฐมพยาบาลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา บริเวณถนนอำนวยสงคราม ถนนศรีอยุธยา กองบัญชาการกองทัพบก และถนนราชดำเนินนอก