วิเคราะห์4แคนดิเดต'ผบ.ตร.คนใหม่'

วิเคราะห์4แคนดิเดต'ผบ.ตร.คนใหม่' โดย ขวัญหทัย มาลากาญจน์
หากไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเสียก่อน "บิ๊กอู๋" พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. จะเป็นคนที่ 2 ต่อจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. ที่ทำหน้าที่ผู้นำสูงสุดขององค์กรตำรวจไปจนกระทั่งเกษียณ แต่ก็มีเรื่องให้ลุ้นระทึกเมื่อญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกผ่านฟ้า เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
รวมถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปฏิบัติหน้าที่ รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะรอง ผอ.ศรส. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการ ศรส. พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นจำเลยที่ 1-6 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งศาลอาญาได้มีคำสั่งให้นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 26 พฤษภาคม ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจกลายเป็นจุดพลิกผันทำให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ต้องลุกจากเก้าอี้ ผบ.ตร. ก่อนวันเกษียณ ซ้ำรอย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร. รุ่นพี่ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งไปเพราะเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อครั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
หากเกิดอุบัติเหตุที่ว่าจริง น่าจับตาอย่างยิ่งว่าใครจะก้าวมาสืบทอดตำแหน่ง ผบ.ตร. คนใหม่แทน ชั่วโมงนี้หากเทียบชั้นโดยยึดหลักอาวุโส มีรองผบ.ตร. 4 คน ที่อยู่ในข่ายคว้าเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 10 ไปครอบครอง คนแรกคือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ซึ่งได้รับแรงหนุนจาก พล.ต.อ.อดุลย์ อย่างเต็มที่ เห็นได้จากระยะหลังมักได้รับมอบหมายงานสำคัญๆ ให้โชว์ผลงานอย่างสม่ำเสมอ
พล.ต.อ.เอก ไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นนักเรียนนายร้อยอบรม เกษียณอายุราชการในปี 2559 โดยจบปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ่วงด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 จบปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นนายตำรวจที่เชี่ยวชาญงานด้านสอบสวน แม่นยำในข้อกฎหมาย ได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบคดีสำคัญๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง
พล.ต.อ.เอก อดีตเคยเป็นหัวหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เลือกข้างชัดเจน สามารถประสานงานกับนักการเมืองได้ทุกขั้วทุกยุค จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งในสถานการณ์การเมืองสองขั้วที่ชัดเจน
คนถัดมาคือ "บิ๊กจูดี้" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. จบเตรียมทหารรุ่น 15 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 31 เกษียณอายุราชการ ปี 2559 ดีกรี "ดอกเตอร์" เติบโตในอาชีพตำรวจอย่างรวดเร็วเพราะความสามารถด้านการพูด เป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาหลายยุคหลายสมัย จนกลายเป็นบุคคลที่โด่งดัง ประชาชนรู้จัก ถนัดงานด้านมวลชน มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับพรรคเพื่อไทย เคยลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทยมาแล้ว หากการเมืองไม่พลิกขั้วถือเป็นตัวเต็งที่พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้ทำหน้าที่ ผบ.ตร.
ตัวเต็งอีกคนคือ "บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รองผบ.ตร. จบเตรียมทหารรุ่น 15 นักเรียนนายร้อยรุ่น 31 เกษียณอายุราชการ ปี 2558 ถือว่าเป็นแคนดิเดตที่มาแรงในเวลานี้ ด้วยความที่เป็นมือประสานสิบทิศ เข้าได้กับสายการเมืองทุกขั้ว คลุกอยู่ในวงการการเมืองมายาวนานทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่เป็นนายตำรวจติดตามนายมนตรี พงษ์พานิช อดีต รมว.พาณิชย์ ทำให้เรียนรู้ความเป็นนักการเมือง มีความสนิทสนมกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย ในสายพรรคเพื่อไทยก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร. ที่ทำงานด้านการปราบปรามยาเสพติดร่วมกันมา กับพรรคประชาธิปัตย์ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี มีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับสายทหาร ประกอบกับเป็นนักธุรกิจที่พร้อมด้วยกำลังทรัพย์ จึงเป็นบุคคลที่ไม่ว่าการเมืองจะเปลี่ยนขั้วอย่างไรก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับ พล.ต.อ.สมยศ
คนสุดท้ายหากการเมืองไม่พลิกขั้วก็มีโอกาสได้เชยชมเก้าอี้ผู้นำสีกากีคือ “บิ๊กย้อย” พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 30 เกษียณอายุราชการปี 2558 ถือเป็นมือทำงานให้แก่รัฐบาลชุดนี้ ได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีการทุจริตโครงการจำนำข้าว ได้รับความไว้วางใจดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. เป็นหนึ่งในคนสนิทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ผ่านการทำคดีสำคัญๆ มามากมาย ถือเป็นตำรวจสายสืบสวนปราบปรามมือดีคนหนึ่ง หากการเมืองไม่เปลี่ยนขั้วมีโอกาสสูงที่จะสอดแทรกคว้าเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 10
ใครจะสืบทอดตำแหน่ง ผบ.ตร. ต่อจาก "บิ๊กอู๋" ขึ้นอยู่กับว่า ณ วินาทีนั้น อำนาจทางการเมืองอยู่ที่ขั้วใด