ปล่อยตัว'แรมโบ้อีสาน'พร้อมยุบ'อพปช.'

คสช.ปล่อยตัว แรมโบ้อีสาน เจ้าตัวประกาศลั่นยุบ อพปช. พร้อมลาออกจากเพื่อไทย และเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต
เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. วันที่ 29 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 พร้อมอาวุธครบมือได้นำตัวนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” แกนนำ นปช. และเป็นประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) นั่งรถตู้สีขาวเดินทามาจาก จ.ขอนแก่น เพื่อนำมาปล่อยตัวที่บริเวณประตูทางเข้าหน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนายสุภรณ์ ได้ถูกเชิญเข้ารายงานตัวกับทางกองทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา และถูกควบคุมตัวอยู่ภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง (แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นที่ใด) ก่อนถูกปล่อยตัวในช่วงค่ำของวันนี้ (29 พ.ค. 57) รวมระยะเวลาถูกควบคุมตัวนาน 6 วัน
โดยการปล่อยตัวนายสุภรครั้งนี้มีนางสุ้น อัตถาวงศ์ อายุ 82 ปี มารดาของนายสุภร พร้อมด้วยนายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ น้องชาย และญาติพี่น้องของนายสุภรณ์ฯ ขับรถ 2 คันมารอรับตัวนายสุภรณ์ฯ กลับบ้านที่ อ.ครบุรี ด้วย ทั้งนี้หลังถูกปล่อยตัวลงจากรถตู้ นายสุภรณ์ฯ ได้ก้มลงกราบแทบเท้าของมารดา พร้อมกับหอมแก้มมารดาด้วยความคิดถึง และมีน้ำตาคลอเบ้า พูดเสียงสั่นเครือ
โดยนายสุภรณ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับการปล่อยตัว ขณะนี้บ้านเมืองเกิดวิกฤติ อะไรที่เราจะทำให้บ้านเมืองเดินไปได้ เราต้องให้ความร่วมมือ อะไรที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง และทำให้สงครามกลางเกิดขึ้นเราควรจะหยุด ไม่ควรคิดที่จะไปให้คนไทยมาห่ำหั่นกันเองหรือมาปะทะกันเอง ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่ดีสำหรับประเทศไทย นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นประธาน อพปช. ตนได้สื่อสารไปยังพี่น้องสมาชิก อพปช.แล้วว่า ขอยุติบทบาทการเป็นประธาน อพปช. และขอยุบ อพชป. ที่ตนเป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาทั้งหมด รวมทั้งขอวิงวอนให้พี่น้องสมาชิก อพปช.ได้ให้ความร่วมมือในการทำให้บรรยากาศบ้านเมืองเป็นไปด้วยความสงบ เรียบร้อย ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่ขบวนการที่จะได้มาซึ่งการเลือกตั้งในอนาคต สำคัญที่สุดอย่าใช้ความรุนแรง ใครไปใช้ความรุนแรง เอาชื่อ แรมโบ้ไปอ้าง เอา อพปช.ไปอ้าง ตนถือว่า เป็นความผิดส่วนตัว เพราะวันนี้ตนได้ยุบ อพปช. เรียบร้อยแล้ว และอย่าได้ใช้ชื่อนี้ไปแอบอ้างทำการใดๆในการก่อความไม่สงบ ความรุนแรง หรือสร้างปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนอายุ 50 ปีแล้ว บทบาททางการเมืองของตน จะขอใช้เวลาที่เหลือไปดูแลครอบครัว ดูแลแม่ที่อายุ 82 ปีแล้ว และตนจะยุติบทบาททางการเมืองกว่า 30 ปีที่ผ่านมาของตนลงแต่เพียงเท่านี้ ขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ หรือมีกองกำลังอะไรก็ตาม ขอให้ยุติการเคลื่อนไหว หรือการใช้กองกำลัง และสำคัญที่สุดอย่าได้ใช้ตนไปอ้างชื่อทำให้เกิดความเสียหาย ใครใช้ชื่อแรมโบ้อีสานหรือ อพปช.ไปอ้าง ถ้าทำผิดกฎหมายต่อบ้านเมืองและถูกเจ้าหน้าที่จับไปดำเนินคดี ตนไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
“ ผมยุติบทบาททางการเมือง ผมขอเวลาที่เหลืออยู่นี้เอาเวลามาดูแลคุณแม่และครอบครัว เพราะผมไม่เคยมีเวลาให้คุณแม่และครอบครัวมากนัก ดังนั้นผมจะขอยุติบทบาทางการเมือง ประกาศชัดเจน และต่อจากนี้ขอทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี เป็นพ่อที่ดีให้กับลูกและครอบครัว รวมทั้งจะทำหน้าที่ในการเป็นสามัญชนประชาชนธรรมดาในการประกอบอาชีพโดยสุจริต โดยไม่คิดก้าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการเมืองอีกต่อไป รวมทั้งผมยังต้องลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย ผมคิดว่าที่ผ่านมาการเมือง 30 ปี ตั้งแต่สมัยอาจารย์หม่อมราชวงศ์ศึกฤทธิ์ฯ ทำให้ผมเห็นว่า หากการเข้าไปเล่นการเมืองแล้วทำให้เกิดความไม่สามัคคีปรองดองกัน ขัดแย้งกัน สร้างความแตกแยก ต่างฝ่ายต่างไม่มีข้อยุติ และเกิดปัญหาวุ่นวายในบ้านเมือง ผมว่าหยุดเล่นดีกว่า เพราะเล่นการเมืองไปไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นี่คือข้อเท็จจริง และพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ผมจะไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) โดยจะประกาศต่อหน้าย่าโมขอยุติบทบาททางการเมืองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”.นายสุภรณ์ กล่าว







