วีรบุรุษสีกากีพลีชีพที่ปลายขวาน

(รายงาน) จาก "ชุมแพ" ถึง "อดินันท์" วีรบุรุษสีกากีพลีชีพที่ปลายขวาน
ในห้วงเวลาแค่ปีกว่าๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องสูญเสียตำรวจน้ำดี ยศระดับ "พันตำรวจโท" ซึ่งดำรงตำแหน่ง "รองผู้กำกับการ" ไปแล้วถึง 2 นาย
หนึ่ง คือ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม (รองผกก.ป.) สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์เสียชีวิตพร้อมลูกน้องอีก 2 นาย ในท้องที่ อ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2556 กลางวันแสกๆ
สอง คือ พ.ต.ท.อดินันท์ อิสมาแอล รองผกก.ป.สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ถูกคนร้ายดักยิงถล่มขณะเดินทางโดยรถยนต์จนเสียชีวิตพร้อมลูกน้องรวม 3 ศพเช่นกัน ในท้องที่ อ.กรงปินัง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2557 เวลาประมาณ 22.45 น.
ที่น่าตกใจคือ ทั้งสองเป็นตำรวจโรงพัก ทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับประชาชน ทั้งยังได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างสูง...
พ.ต.ท.อดินันท์ เป็นตำรวจมุสลิม และเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41 (นรต.41) ว่ากันว่าเป็นตำรวจที่นับถือศาสนาอิสลามยศสูงที่สุดที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในห้วงกว่า 10 ปีไฟใต้ เขาเป็นที่รักของชาวบ้านเนื่องจากใช้ศาสนาเข้าไปแก้ปัญหายาเสพติดที่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ ด้วยการชักชวนเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือใช้ยา ออกดะวะห์ (เผยแผ่ศาสนา) ไปตามสถานที่ต่างๆ
เหตุนี้เอง เมื่อเขาเสียชีวิตจึงมีการนำศพเขาไปละหมาดใหญ่ที่ "ศูนย์มัรกัสยะลา" อ.เมืองยะลา (สถานที่ประกอบศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม โดยเฉพาะสายดะวะห์) ก่อนจะเคลื่อนศพไปทำพิธีฝังตามหลักศาสนาที่กุโบร์ (สุสาน) บ้านเกิด ว่ากันว่าเขาเป็นมุสลิมคนแรกๆ อีกเหมือนกันที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐแล้วมีการนำศพไปละหมาดใหญ่ที่ศูนย์มัรกัสยะลา
ด้วยความรักและการยอมรับที่ประชาชนในพื้นที่มีให้ จึงไม่มีใครคิดว่า พ.ต.ท.อดินันท์ จะถูกปองร้าย ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านทั่วไปหรือกลุ่มขบวนการที่มีอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนก็ตาม แต่แล้วเหตุการณ์ร้ายก็เกิดขึ้นจนได้...
เช่นเดียวกับการจากไปของ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ เจ้าของฉายา "ชุมแพ" (ต่อมาได้รับพระราชทานยศพลตำรวจเอก) แม้เขาไม่ใช่นักเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ก็มีอุดมการณ์เปี่ยมล้น อาสาสมัครลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญกรณีกรุ้มรุมทำร้าย ครูจูหลิง ปงกันมูล เมื่อปี 2549 ด้วยปณิธานว่าจะตามจับคนร้ายที่ฆ่าครูจูหลิงให้ได้
เขาเคยดำรงตำแหน่งสารวัตรปราบปราม (สวป.) สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และปฏิบัติหน้าที่อย่างมุ่งมั่น เที่ยงตรง กระทั่งได้รับฉายาจากชาวบ้านว่า "ชุมแพ" ตามชื่อของละครยอดนิยมในยุคนั้นที่ตัวเอกของเรื่องคือ "เพิก ชุมแพ" ยอมเสียสละต่อสู้กับกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นที่กระทำธุรกิจผิดกฎหมายและรังแกประชาชน
เมื่อย้ายไปดำรงตำแหน่งรอง ผกก.ป. สภ.รือเสาะ ก็ยังยึดแนวปฏิบัติแบบเดียวกัน จนได้รับการยอมรับจากชาวบ้าน แม้แต่กลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติการณ์เป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ ก็ยังให้การยอมรับว่าเป็นนายตำรวจที่มีนิสัยตรงไปตรงมา และใจนักเลง
ด้วยเหตุนี้ ชาวรือเสาะที่เป็นไทยพุทธและคนไทยเชื้อสายจีนจึงได้ร่วมกันจัดสร้างประติมานุสรณ์ หรือ รูปหล่อ "วีรบุรุษชุมแพ" เพื่อสดุดีและระลึกถึงคุณงามความดีของนายตำรวจผู้นี้ โดยพี่น้องมุสลิมที่ตามหลักศาสนาไม่อนุญาตให้มี "รูปเคารพ" ก็ไม่ได้คัดค้าน เพียงแต่ขอให้นำไปตั้งในสถานที่เฉพาะ เช่น สวนกาญจนาภิเษก เป็นต้น
15 มี.ค.2557 พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้เป็นประธานในพิธีเปิดประติมานุสรณ์ พล.ต.อ.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ ที่สวนกาญจนาภิเษก ในเทศบาลตำบลรือเสาะ โดยมีชาวบ้านทั้งใน อ.รือเสาะ และใกล้เคียงไปร่วมพิธีอย่างคับคั่งหลายร้อยคน
ประติมานุสรณ์ พล.ต.อ.จักรกฤษณ์ หล่อด้วยเนื้อทองเหลืองสูง 2 เมตร โดยฝีมือของ นายกำพล รอดเรืองงาม อดีตอาจารย์ศิลปะ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม ถูกนำไปตั้งไว้ 3 แห่ง คือ ที่สวนกาญจนาภิเษก อ.รือเสาะ ที่วิทยาเขตอุเทนถวาย กรุงเทพฯ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรกฤษณ์ เป็นศิษย์เก่า และที่พิพิธภัณฑ์อุเทนถวายเขาเขียว จ.ชลบุรี
เพื่อระลึกถึงตำรวจน้ำดีที่ไปสละชีวีที่ปลายด้ามขวาน!