ทหารปล่อย'อ.นิธิ-นักศึกษา'

ทหารปล่อย"อ.นิธิ-นักศึกษา" ตั้งเงื่อนไขจัดเวทีเสวนาอีกต้องขอไฟเขียวก่อน
"ประยุทธ์"เผยเจ้าหน้าที่ปล่อยตัว"นิธิ เอียวศรีวงศ์-นักวิชาการ-นักศึกษามธ."แล้ว หลังถูกคุมตัวเหตุจัดเสวนา"การล่มสลายของเผด็จการฯ" ตั้งเงื่อนไขจัดเวทีครั้งต่อไปต้องส่งหัวข้อให้ทหารไฟเขียวก่อน อธิการมธ.ชี้กฎอัยการศึกไม่เว้นรั้วมหาวิทยาลัย "มท.1เร่งเครื่องอุดหนุนงบอปท.1.8 หมื่นล้าน
ความคืบหน้าหลังจากที่ พ.อ.พัลลภ เฟื่องฟู ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 รับผิดชอบในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้เข้ายุติการบรรยายปาฐกถาเรื่อง "การล่มสลายของเผด็จการในต่างประเทศ" ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ศูนย์รังสิต พร้อมเชิญตัว นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการ, นายเชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์, น.ส.จันจิรา สมบัติพูนศิริ, นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มธ. และนักศึกษาอีก 3 คนไปสอบสวนที่สภ.คลองหลวง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวในค่ำของวันเดียวกัน ด้านนายนิธิ กล่าวถึงกรณีการถูกควบคุมว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษ เพียงแค่ทำความเข้าใจด้วยวาจาสุภาพ และมีความเป็นกันเอง รวมทั้งให้ลงลายมือชื่อรับทราบในฐานะพยานเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้มองว่า หากมีการเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ มาพูดคุย และหารือเรื่องขอบเขตในการจัดกิจกรรมให้ชัดเจน ก็จะเป็นเรื่องที่ดี หรือหากจะจัดกิจกรรมโดยผ่านการพิจารณาของทหารก่อน ก็เห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหา
"ผมพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่า ถ้าให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเป็นผู้พิจารณาเองว่าจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติ เขาก็ใช้วิจารณญาณของเขา ซึ่งอาจตรงหรือไม่ตรงของฝ่ายทหารก็ได้ ผมก็บอกกับทหารเองว่า ผมเห็นใจผู้อนุมัติของธรรมศาสตร์ เพราะถ้าผมเป็นเขา ก็อนุมัติเหมือนกัน ด้วยวิจารณญาณว่า ไม่เห็นเป็นไร มันเรื่องเกี่ยวกับวิชาการ ก็ช่างมันปะไร แล้วปรากฏว่ามันก็ผิด เพราะทหารรู้สึกว่าอย่างนี้อันตราย เพราะงั้นอย่าให้ต้องใช้วิจารณญาณ คุณจะบอกว่าให้ทุกเรื่องส่งไปให้ทหารพิจารณา ก็ส่งไปเลย ไม่มีปัญหา" นายนิธิ กล่าวพร้อมยืนยันว่า หลังจากนี้จะแสดงความคิดเห็นเฉพาะในเรื่องที่สำคัญและเหมาะสมเท่านั้น
ขณะที่เฟซบุ๊คกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวนักศึกษาและวิทยากรทั้งหมดแล้ว โดยหลังการปล่อยตัวนายประจักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการตั้งข้อหา แค่ทำความเข้าใจและทำข้อตกลงร่วมว่าถ้าจะมีการจัดงานเสวนาวิชาการ ต้องส่งหัวข้อให้ฝ่ายทหารอนุมัติก่อน
"ประยุทธ์"ย้ำคำสั่งทุกอย่างเหมือนเดิม
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้จับแต่ไปเชิญตัวมา และปล่อยตัวไปหมดแล้ว กรณีนี้ตนไม่อยากให้มีการขยายความต่อ เพื่อจะได้ไม่เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว อย่างไรก็ดีเห็นว่า เวทีเสวนาดังกล่าวเป็นการพูดเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ซึ่งตนบอกแล้วอย่าเพิ่งพูดอีกทั้งการจัดงานดังกล่าวยังไม่ได้มีการขออนุญาต
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดโอกาสให้พูดเรื่องที่ล่อแหลมทางการเมืองทั้งสิ้นใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คำสั่งทุกอย่างยังเหมือนเดิมทุกประการ เมื่อถามต่อว่าทำไมจึงไม่มีการเปิดโอกาสให้มีการแสดงออกทางการเมืองบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ตนเปิดให้สื่อมวลชนได้พูดได้ถาม ไม่เคยห้ามอะไร ส่วนเวทีที่มธ.นั้นเป็นการพูดเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งหากมีการส่งโครงร่างของการจัดงานมาก่อนก็จะมีคณะกรรมการร่วมกันตรวจก่อน ซึ่งตนไม่ได้ตรวจคนเดียวว่าพูดได้หรือไม่
"ถ้าพูดเรื่องประชาธิปไตยการเลือกตั้งนั้นพูดได้ แต่วันนี้รัฐบาลเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตรงนี้พูดไม่ได้ ขอถามว่า วันนี้ผมทำให้ประเทศชาติเสียหายตรงไหนบ้าง ตอบมา" นายกฯระบุ
ติดซีซีทีวี283จุดทั่วกรุงลดอาชญากรรม
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้เป็นประธานประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังว่า การทำงานในเรื่องของความมั่นคงภายใต้ “แอ็กชั่นแพลน” จะมีการจัดตั้งศูนย์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการจาก 4 กระทรวงหลัก และ 1 กรม ไว้ที่กระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ดังกล่าว ทำหน้าที่คล้ายกับศูนย์ “วันสต็อปเซอร์วิส” ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ เสนอแนะการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในระดับนโยบาย โดยจะเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มทำงานได้ในสัปดาห์หน้า โดยให้ยึดตามโรดแมพของ คสช. และรัฐบาลเป็นหลัก พร้อมประเมินผลงานทุกๆ 3 เดือน
พ.อ.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ยังแสดงความห่วงใยถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กทม. สตช. การไฟฟ้า เพื่อหารือและดำเนินการติดตั้งกล้องซีซีทีวี เพิ่มแสงสว่างให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม. เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม โดยเตรียมจะติดตั้งกล้องซีซีทีวี 283 จุด ภายในเวลา 2 เดือน
"มท.1"เร่งอุดหนุนงบอปท.1.8หมื่นล้าน
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตนเห็นชอบให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เร่งจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนที่ยังค้างอยู่ จำนวน 18,500 ล้านบาท เป็น 2 ส่วน คือ งบอุดหนุนทั่วไป 8,500 ล้านบาท และงบอุดหนุนเฉพาะกิจสำหรับพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กรณีเร่งด่วน ประจำปี 2557 จำนวน 10,000 ล้านบาท ที่เน้นให้กระจายเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. อย่างเป็นธรรมทั่วถึง โดยเน้นจัดสรรให้แก่อปท.ที่ไม่เคยได้รับเงินอุดหนุนย้อนหลังเป็นเวลา 3 ปี ขณะนี้ได้จัดสรรไปเรียบร้อยแล้วในวงเงิน 4,941 ล้านบาท
ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 5,000 ล้านบาท ได้ให้ความเห็นชอบจัดสรรเพิ่มเติมให้แก่ อปท.ที่ไม่เคยได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนย้อนหลัง 2 ปี โดยให้เร่งรัดการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2557 เพื่อให้อปท.นำไปใช้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
"สมยศ"โชว์หลักฐานโต้"กริชสุดา"
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่ง กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน เผยแพร่คลิปที่มีเนื้อหาสอบถาม พล.ต.อ.สมยศ ว่า มีพยานหลักฐานใดที่แสดงว่าตัวเองไปเกี่ยวข้องกับขบวนการชายชุดดำ ว่า น.ส.กริชสุดา จะมาพูดว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชายชุดดำไม่ได้ เพราะจากการเข้าไปตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.กริชสุดา ที่พัทยา พบหลักฐานจำนวนมาก อาทิ หลักฐานการโอนเงินให้ชายชุดดำไปก่อเหตุ
"ขอยืนยัน ไม่ได้กล่าวหาหรือพูดจาแบบลอยๆ แต่มีพยานหลักฐานเป็นเอกสารการสั่งซื้ออาวุธสงคราม อาทิปืนอาก้า เอ็ม 16 และ เอ็ม 79 และยังพบเอกสารการโอนเงินให้กับผู้ต้องหาในคดีอาวุธสงคราม ตั้งแต่ปี 2553-2557 และพบจดหมายจากนักโทษในเรือนจำ ที่เขียนมาขอบคุณ น.ส.กริชสุดา ที่โอนเงินจำนวน 5 หมื่นบาทให้ เพราะฉะนั้นจะมาพูดว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ผมไม่ได้ใส่ร้าย ถ้าคุณออกคลิปถามมาอีก ผมก็จะหาหลักฐานมาตอบคุณอีกแน่นอน" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
อุทธรณ์ยืนคุก11ปี"สมยศ"คดีหมิ่นเบื้องสูง
ที่ศาลอาญา ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมิ่นเบื้องสูง กรณีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 53 ปี อดีตบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังจากได้มีการเผยแพร่นิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง รวมทั้งหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม โดยศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 2 คดีเป็นเวลา 11 ปี
ต่อมาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดี โดยให้เหตุผลว่า เป็นเพียงบรรณาธิการ ไม่ใช่ผู้ประพันธ์บทความ จึงไม่ต้องรับผิด และในบทความได้กล่าวถึงระบบอำมาตย์ มิใช่สถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คำอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้นจึงเห็นพ้องพิพากษายืนให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 11 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมยศ ระบุว่า จะยื่นฎีกาต่อสู้คดีทั้งในข้อเท็จจริงและประเด็นข้อกฎหมายต่อไป