พ่อ แม่'ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์'พบตร.ส่งฟ้องคดีหมิ่นเบื้องสูง

พ่อ แม่"ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์" เข้าพบรรท.ผบช.ก.และคณะ เพื่อส่งฟ้องพร้อมสำนวนคดีหมิ่นเบื้องสูง
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิรุจ สุวะดี อายุ72ปี และนางวันทนีย์ สุวะดี อายุ66ปี บิดาและมารดาของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี พร้อมด้วยน.ส.ปณิตา สุวะดี พี่สาวของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รรท.ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ บก.ป.เพื่อส่งฟ้องพร้อมสำนวนการสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง,ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหาย และใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานแจ้งความเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ภายหลังน.ส.ศวิตา หรือแสงระวี หรือนก มณีจันทร์ อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง อยู่บ้านเลขที่ 47/2 หมู่ 8 ต.เกาะศาลระ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทันทีที่เดินทางมาถึงนายอภิรุจ และนางวันทนีย์ รวมทั้ง น.ส.ปณิตา ลงจากรถกระบะ ก่อนเดินขึ้นไปยังห้องประชุมเพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.ฐิติราช และคณะ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอติดตามทำข่าวเป็นจำนวนมากแต่อย่างใด
ภายหลังการตรวจสอบความเรียบร้อยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว ทาง พล.ต.ต.ฐิติราช และ พ.ต.อ.อัคราเดช พร้อมคณะพนักงานสอบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า สำหรับคดีนี้เมื่อทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานๆ และสรุปสำนวนคดีเสร็จสิ้นแล้ว จึงนัดหมายให้ นายอภิรุจ และนางวันทนีย์ เข้าพบเพื่อส่งฟ้องคดีต่ออัยการและศาลอาญาต่อไป โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูง
พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวถึงการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ว่า เป็นไปตาม ป.วิอาญา มาตรา 142 โดยก่อนหน้านี้็ดำเนินการตาม ป.วิอาญา มาตรา 134 จากนี้ก็จะส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาต่อพนักงานอัยการ แต่ก่อนจะไปถึงอัยการ ก็จะไปที่ศาลเพื่อขอฝากขังก่อน เสร็จแล้วจึงไปเรียนอัยการ ว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกฝากขังไว้ จากนั้นทางอัยการ ก็ต้องตรวจสอบสำนวนและมีความเห็น ว่าจะสอดคล้องต้องกันกับความเห็นของพนักงานสอบสวนหรือไม่
รรท.ผบก.ป.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาในคดีมีเพียง 2 ราย ส่วน น.ส.ปณิตา จะพิจารณาอนุญาตให้สามารถอยู่ใกล้ชิดกับผู้ต้องหาได้ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองเป็นผู้สูงอายุ และสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง
ด้าน นางวันทนีย์ กล่าวว่า ให้การรับสารภาพไปหมดแล้วทุกอย่าง สิ่งที่ทำไป พูดไป เป็นไปด้วยความไม่ตั้งใจ ก็มีแค่นั้นแหละ สารภาพหมดแล้วในทุกข้อกล่าวหา ก็ไม่ขอพูดอะไรมาก อยากจะบอกเพียงว่ายังคงรักและเทิดทูนสถาบันเหมือนเดิม ก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงชุบเลี้ยงเรามา สำนึกอยู่ทุกวันทุกคืน ไม่เคยลืมเลย
ขณะที่ นายอภิรุจ กล่าวว่า ไม่มีอะไรมาก ก็สำนึกผิดแล้ว ก็ไม่รู้จะพูดอะไร สำนึกผิดว่าได้เคยทำอะไรไปโดยไม่ทันได้คิด ข่าวที่ออกมานั้นทำให้สถาบันเบื้องสูงได้รับความเสียหาย เรื่องการพนัน เรื่องบ่อนอะไรนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบัน จะมีก็ส่วนตัวที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ทำ โดยครอบครัวเราก็ไม่รู้เรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผู้ต้องหาเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเปิดบ่อนการพนัน น.ส.ปณิตา พี่สาวของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้เกี่ยวข้องเลย สถาบันเบื้องสูงก็ไม่เกี่ยวข้อง ครอบครัวเราไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง ถ้าจะเกี่ยวข้องก็คือพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ไปทำอะไรเราก็ไม่ทราบ ขอยืนยันว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องการเปิดบ่อนการพนันแน่นอน เราสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงชุบเลี้ยงครอบครัวเรามา ถึงวันนี้ก็ยังยืนยันว่าสถาบันเบื้องสูงไม่เกี่ยวข้องอะไร
"มีสิ่งที่พี่น้องคนในตระกูลของเราไปแอบอ้าง หรือว่าญาติอย่างท่านพงศ์พัฒน์ ไปแอบอ้างเปิดบ่อนการพนันซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสถาบัน และตัวเรา ครอบครัวเรา รวมทั้งน้องสาวเราด้วย เราไม่ได้โดนบีบบังคับ เราพูดออกมาจากใจจริง พูดมาด้วยความสำนึกจริงๆ อยากจะฝากทางสื่อมวลชน ว่าอยากให้เข้าใจเรื่องสถาบัน เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นทุกๆ เรื่อง สถาบันไม่ได้รับรู้ ครอบครัวเราก็ไม่ได้รับรู้ ที่ผ่านมาเราทุกคนถวายงานด้วยจิตที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงอยากให้ทราบว่าเรื่องการเปิดบ่อน หรือเรื่องอะไรก็ตาม ไม่เกี่ยวกับสถาบัน แต่เกี่ยวกับท่านพงศ์พัฒน์ ท่านไปแอบอ้างก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของท่าน ขอยืนยันเป็นครั้งสุดท้าย"น.ส.ปณิตา กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า ทางนายอภิรุจ และนางวันทนีย์ ได้ให้การรับสารภาพโดยเกิดจากความสำนึกผิดจริงๆ ไม่มีใครบังคับ ขู่เข็ญ ข่มขู่ใดๆ ก็คิดดูว่า เป็นคนบ้านนอกนะแต่เดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่น ที่ตรวจสอบมาได้เพราะอะไร ก็มาจากชาวบ้านก็น่าเห็นใจ แม่ก็ขายข้าวแกงมาก่อน พ่อก็ชาวบ้านธรรมดา เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่บริหารจัดการไม่ดี มันเลยเกิดเรื่องเกิดราวแบบนี้ขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทางพนักงานสอบสวนซึ่งมี พ.ต.อ.ประเสริฐ เป็นหัวหน้าชุดได้ควบคุมตัวนายอภิรุจ และนางวันทนีย์ ขึ้นรถตู้เดินทางไปยังศาลอาญา โดยระหว่างที่กำลังออกจากอาคาร น.ส.ปณิตา ที่มีสีหน้าเศร้าหมองถึงกับมีน้ำตาคลอด้วยความเป็นห่วงคนทั้งสอง อย่างไรก็ดี ทางตำรวจ บก.ป.ได้จัดรถวิทยุสายตรวจ บก.ป.นำขบวนเพื่อเดินทางไปยังศาลอาญา ด้วย