ถอดรหัส 'แดงเสรีชน'
(รายงาน) ถอดรหัส 'แดงเสรีชน' เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ
นับแต่เกิดเหตุระเบิดที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก บรรดาแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ต่างดาหน้ากันออกมาชี้แจงสถานการณ์ผ่านทางช่อง PEACE TV ทีวีดาวเทียมของกลุ่ม นปช.
จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ชี้เหตุปาระเบิดที่หน้าศาลอาญาว่า ต้องการเชื่อมโยงให้เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง พร้อมทั้งเตือนแกนนำ นปช. ระมัดระวังการรับโทรศัพท์หรือโอนเงินให้กลุ่มอดีตการ์ด
ทิศทางข่าวจากกลุ่มแกนนำ นปช. จะเน้นประเด็น "จัดฉาก" แต่ในข้อเท็จจริง แกนนำแดงเหล่านี้ ก็ยากที่จะปฏิเสธการมีอยู่จริงของ "แดงใต้ดิน"
สำหรับคดีปาระเบิดศาลอาญา ถ.รัชดาฯ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทหารสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ถึง 4 คน ตั้งแต่วันแรก โดย 2 คนแรก คือ มหาหิน ขุนทอง คนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และ ยุทธนา เย็นภิญโญ มือปาระเบิด ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวได้ทันทีหลังก่อเหตุ โดย ยุทธนา ถูกยิง 4 นัด บาดเจ็บสาหัส
ส่วนอีก 2 คน คือ ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง ภรรยา มหาหิน และ ธัชพรรณ ปกครอง ภรรยา ยุทธนา ถูกควบคุมตัวได้ที่บ้านพักย่านคลองสามวา กทม.
ด้าน วิระศักดิ์ โตวังจร ที่ถูกออกหมายจับในชุดแรก ยังหลบหนีการจับกุมอยู่ ซึ่งในเวลาต่อมา ศาลทหารอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาตามคำซัดทอดของมหาหินอีก 4 คน ประกอบด้วย วิชัย อยู่สุข(ถูกควบคุมตัวไว้ในความดูแลของฝ่ายทหาร), ชาญวิทย์ จริยานุกูล, ณเรศ อินทรโสภา และ สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน
ที่น่าสนใจในกลุ่มผู้ต้องหาชุดหลังนี้ เมื่อปรากฏชื่อ สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน และ ชาญวิทย์ จริยานุกูล คนเดือนตุลาสายเหนือ (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ที่รู้จักกันในนาม "แดงเสรีชน" ไม่ได้สังกัดกลุ่ม นปช. หรือขึ้นต่อพรรคเพื่อไทย
ย้อนไปเมื่อปลายปี 2549 กลุ่มคนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐประหาร ได้จัดการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง โดยใช้ชื่อ "กลุ่มคนวันเสาร์ ไม่เอาเผด็จการ" ซึ่งเวลานั้น อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ยังสงบนิ่ง ไม่กล้าเคลื่อนไหวทางการเมือง
18 พฤษภาคม 2550 ตัวแทน 22 องค์กรได้ประชุมกลุ่มต้านรัฐประหาร เพื่อจัดตั้ง "แนวร่วมประชาชนต้านรัฐประหาร" (นปตร.) และวันนั้น สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน ตัวแทนกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 2540 และ ชาญวิทย์ จริยานุกูล ตัวแทนกลุ่มกรรมกรปฏิรูป ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
"สรรเสริญ" เป็นชาวนครปฐม จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีอาชีพขับรถแท็กซี่ เมื่อเกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จึงร่วมกับเพื่อนแท็กซี่ ก่อตั้งเครือข่ายแท็กซี่ต่อต้านเผด็จการ และเข้าร่วมกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 2540 ของจรัล ดิษฐาอภิชัย
40 ปีที่แล้ว สรรเสริญเป็นนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในยุคฟ้าสีทองผ่องอำไพ และได้เข้าร่วมสนับสนุนสหพันธ์ชาวนาชาวไร่ภาคเหนือ
หลัง 6 ตุลาคม 2519 สรรเสริญกับผองเพื่อนนักศึกษา เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยอาวุธใต้ร่มธงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) โดยใช้ชีวิตนักรบอยู่ที่เขตงาน 7/1 เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน (รอยต่อ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กับ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน)
ครั้นออกจากป่า สรรเสริญจับอาชีพค้าพืชไร่ ถั่วเหลือง ที่เชียงใหม่ละแวกพื้นที่รอบๆ ดอยอินทนนท์ แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า จึงเข้ากรุงเทพฯ ยึดอาชีพขับแท็กซี่ หาเลี้ยงชีพ
พลันที่คณะทหารกลุ่มหนึ่งก่อการรัฐประหาร สรรเสริญจึงรวมตัวกับเพื่อนแท็กซี่ไปชุมนุมต่อต้านเผด็จการทหาร และได้พบกับสหายร่วมรบมากหน้า
28 กรกฎาคม 2550 สรรเสริญได้รับเลือกให้เป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ชุดที่ 2
กล่าวสำหรับ ชาญวิทย์ จริยานุกูล เป็นชาว อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยกำเนิด จบมัธยมศึกษาตอนปลายที่ ร.ร.มหาวชิราวุธ จ.สงขลา สอบเข้าเรียนคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 2516 แต่เรียนไม่จบ เพราะเข้าร่วมกับขบวนการนักศึกษาภาคเหนือ ผ่านประสบการณ์การทำงานกับสหพันธ์ชาวไร่ชาวนาฯ จนถูกจับติดคุก 7 เดือน
ชาญวิทย์เข้าร่วมต่อสู้ในชนบทกับศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ในสถานการณ์สู้รบปฏิวัติ ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในเขตน่านเหนือ ภูพยัคฆ์
เมื่อออกจากป่า ชาญวิทย์ได้ไปทำงานที่ขอนแก่นกับโครงการเสาไฟฟ้า 4 พันหมู่บ้าน กระทั่งพฤษภาทมิฬ 2535 เขาเข้าร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ รสช. จนถูกจับติดคุกคลองเปรม 3 วัน
ชาญวิทย์เคยร่วมงานกับ สมศักดิ์ โกศัยสุข โดยไปทำงานที่ศูนย์การพัฒนาแรงงานเพื่อพัฒนาชาติ ทำงานอยู่ 2 ปี ก็แยกทางกับสมศักดิ์ เนื่องจากเขาเห็นด้วยกับนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งระบบ ของอดีตนายกฯ ทักษิณ
25 พฤศจิกายน 2550 ชาญวิทย์ ถูกตำรวจจับกุม ในข้อหาแจกเอกสารใบปลิวมีข้อความลักษณะส่อหมิ่นประมาท หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ริมท่าน้ำนนทบุรี
ช่วงหลัง ทั้ง "สรรเสริญ-ชาญวิทย์" ไม่ได้เป็นแกนนำกลุ่มใด แต่พวกเขายังเดินสายให้ความรู้เรื่อง "ประชาธิปไตยประชาชน" แก่คนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
จริงๆ แล้ว ความคิดเรื่องการปกครองแบบ "สหพันธรัฐ" และระบอบประชาธิปไตยประชาชนนั้น ได้มีการเผยแพร่สู่มวลชนคนเสื้อแดงมานานหลายปีแล้ว
จึงไม่น่าแปลกใจที่ "มหาหิน" ผู้ต้องหาที่ถูกนำมาแถลงข่าวในคืนนั้น จะพูดกับสื่อมวลชนอย่างมั่้นใจว่า เป้าหมายการตั้งกลุ่มเสรีชนคือ การปกครองแบบสหพันธรัฐ
ในวันที่ขบวนการคนเสื้อแดงยังไม่เป็นเอกภาพ แกนนำ นปช.ยังสนุกกับการจัดรายการทีวี กลุ่มแดงเสรีชน จึงกำหนดยุทธศาสตร์ "เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ" ประสานกับแดงเสรีชนในต่างประเทศ ก้าวสู่เป้าหมายการสร้างระบอบใหม่ขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
ความฝันของพวกแดงเสรีชนจะเป็นจริงหรือไม่? ก็ขึ้นอยู่กับ คสช. จะรับมือกับ "สงครามเงา" ของแดงใต้ดิน ได้ทันต่อสถานการณ์หรือไม่?