มอบตัว! 'พลทหาร' ราดน้ำมันจุดไฟเผาแฟนลูก2ทั้งเป็น

จากการณีที่ นายสราวุธ เจียงชัย อายุ 31ปี พร้อมหลานสาว 2 คน อายุ 9 ปี และ 14 ปี เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เนื่องจาก น.ส. สินิทรา คุ้มไม้ อายุ 34 ปี พี่สาว และเป็นแม่ของเด็กทั้ง 2 คน ถูก พลทหารสุนัย ตันลิ้มสูน อายุ 22 ปี แฟนหนุ่ม ใช้น้ำมันราดไปที่หัวและจุดไฟเผาทั้งเป็น ขณะนอนหลังอยู่ภายในห้องกับลูกสาวทั้ง 2 คน เหตุเกิดในบ้านเช่า เลขที่1020/48 ซอยเพชรเกษม106 หมู่บ้านศรีเพชร แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. พื้นที่รับผิดชอบของ สน.หนองค้างพลู สาเหตุเนื่องมาจากความหึงหวง เกรงว่า น.ส. สินิทรา จะไปมีคนอื่น จนอาการสาหัส มีรอยไหม้ ระดับ 3 และยังคงต้องดูอาการวันต่อวันในห้องไอซียู ร.พ.ศิริราช

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 พ.ค. นางปวีณา ได้เดินทางมาพบ พ.ต.อ.ถรงค์ ถัดทะพงษ์ ผกก สน.หนองค้างพลู ภายหลังทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายธนะรัชต์ ได้ควบคุมตัวพลทหารสุนัย มามอบตัวให้พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู เพื่อดำเนินคดี ก่อนกล่าวว่า ภายหลังได้รับเรื่องร้องทุกข์แล้ว มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ก็รีบประสาน พ.ต.อ.ณรงค์ เพื่อเร่งรัดให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยทางเจ้าหน้าตำรวจประสานงานไปที่ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ ผ่านทาง พล.ต.นภดล ยิ้มถนอม ผู้บัญชาการการศูยน์ทหารราบค่ายธนะรัชต์ เพื่อนำตัว พลทหารสุนัย มาดำเนินคดี ซึ่งได้รับความรวมมืออย่างดี

นางปวีณา กล่าวอีกว่า สำหรับอาการของผู้เสียหายตอนนี้อาการยังขั้นโคม่ายังอยู่ห้อง ไอซียู เพื่อทำการรักษาตัวโดยมีบาดแผลจากการถูกจุดเผาไฟที่ ศีรษะ ใบหน้า แขนทั้ง 2 ข้าง บริเวณหน้าอกได้รับความสูญเสียถึงระดับ 3 เสียหาย 45 เปอร์เซ็นต์ ทางแพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดเนื่องจากกลัวแผลติดเชื้อ หากผู้เสียหายอาการดีขึ้นตามลำดับ หรือออกจากห้องไอซียูแล้วทางมูลนิธิประสานไปยัง โรงพยาบาลยันฮีเพื่อศัลยกรรมตกแต่งแผลโดยค่าใช้จ่ายมูลนิธิยินดีออกให้ทั้งหมด

“ส่วนลูกสาวของผู้เสียหายทั้ง 2 คน ตอนนี้ในพักกับทางญาติก่อน โดยทางมูลนิธิฯเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจกับเด็กทั้ง 2 และให้นักสังคมสงเคราะห์มาดูแล เนื่องจากเด็กยังคงหวัดกลัวไม่กล้ากลับไปที่บ้านพัก เพราะเด็กทั้ง 2 คนอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด เด็กยังมีภาพติดตาที่แม่ของตัวเองถูกจุดไฟเผาทั้งเป็น” นางปวีณา กล่าว

ด้าน น.ส.ธัญญารัตน์ เจียงชัย อายุ 25 ปี น้องสาวของผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุในวันที่ 7 พ.ค. พลทหารสุนัย เดินทางมาที่บ้านพักหลังเกิดเหตุ ในบ้านมีคนอาศัยประมาณ 6 คน โดยมีผู้เสียหายพร้อมลูกสาวพักด้วย ซึ่งพลหทารสุนัยต้องการมาพบพี่สาวของตน พร้อมบอกว่าได้ลาราชการมาเยี่ยม ต้องการปรับความเข้าใจกันในเรื่องความรัก แต่เหมือนจะเคลียร์กันไม่ลงตัว จากนั้นพลทหารสุนัย ขอนอนพักผ่อนที่บ้านนี้ 1 คืน ก่อนกลับไปรับราชการต่อ พวกตนไม่ได้เอะใจจึงได้ขึ้นบ้านนอนชั้นที่ 2 ส่วนผู้เสียหายกับพลทหารนอนอยู่ข้างล่างพร้อมกับลูกสาวที่ห้องรับแขก กระทั่งเวลา 05.00 น. ของวันที่ 8พ.ค. ตนได้เสียงร้องของพี่สาวดังขึ้น พวกตนตกใจจึงรีบมาดูแต่ต้องพบกับภาพวาดเสียว คือพี่สาวตนมีไฟลุกท่วมหัว พร้อมกับลูกของพี่สาวนั้งร้องระงม ก่อนช่วยกันดับไฟที่ติดตามร่างของพี่สาวแล้วนำส่งโรงพยาบาล

ขณะที่พลทหารสุนัย ให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าแฟนสาวแต่อย่างใด เพียงแต่จะสั่งสอนแฟนสาวที่แอบตีตัวออกห่างไปมีคนอื่นจนตนจับได้ ไม่คาดคิดว่าไฟจะลุกลามไปไหม้ทั้งตัวจนอาการสาหัสขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ตนได้ลาราชการตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพักผ่อนและกลับมาหา น.ส.สินิทรา เคลียร์ปัญหาหัวใจที่เนื่องจากแฟนสาวจะของเลิกรา กระทั่งคืนวันที่ 7พ.ค. ตนและแฟนสาวได้พูดคุยกันจนตกลงจะเลิกรากัน ซึ่งตนขอนอนด้วยคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายก่อนที่จะแยกทางกันไป

“ด้วยความรักทำให้ผมนอนไม่หลับคิดฟุ้งซ่านทั้งคืน พอเช้ามืดวันที่ 8 พ.ค. ยังรู้สึกหึงหวงในตัวแฟนสาว ไม่อยากให้ไปมีคนอื่น จึงคิดจะสั่งสอนให้หลาบจําและเสียโฉม จากนั้นก็ไปหยิบขวดน้ำมันที่ดูดมาจากรถรถมอเตอร์ไซค์ ของผมเอง โดยกะว่าเอาไว้ไปเติมรถมอเตอร์ไซค์อีกคันที่เอาไปจำนำไว้ เอามาราดไปที่หัวของแฟนสาวก่อนจะจุดไฟเผา และหลบหนีไปทิ้งแฟนสาวที่มีไฟท่วมตัวที่นอนอยู่กับลูกสาวที่ติดมาอีก 2 คนอยู่ภายในห้อง ผมรู้สึกผิดแต่ที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะหึงหวง ผมทำด้วยอารมณ์ล้วนๆไม่ได้เมา ไม่ได้เสพยา” พลทหารสุนัย กล่าว

เบื้องตนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พยามฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้ายและ พรบ.ครอบครัวก่อนขออำนาจศาลศาลทหารกรุงเทพเพื่อฝากขังและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป