รวบแล้ว! มือสังหาร'ทิวพันธุ์ เปาอินทร์'

ตร.แถลงจับมือสไนเปอร์ยิง "ทิวพันธุ์ เปาอินทร์” เป็น "ลูกน้องเก่า" แตกคอกัน เรื่องเงินค่านายหน้าค้ารถ มูลค่าหลายล้านบาท
จากกรณีคนร้ายใช้ปืนยาวติดกล้องส่องแบบสไนเปอร์สังหารนายทิวพันธ์ เปาอินทร์ อายุ 31 ปี ลูกชาย พ.ต.อ.อนันต์ เปาอินทร์ อายุ 73 ปี และหลานของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตรองนายกฯ เสียชีวิต ขณะกำลังอุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ มาส่ง ร.ต.ท.ปภิณวิช รอดบางยาง ลูกชายของ พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น.กับ ร.ต.ท.ปกรณ์ ใจภักดี สังกัดโรงเรียนนายร้อยตำรวจ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 258/20 ซอยงามวงศ์วาน 9 แยก 5 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าด้านคดีพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมจิตร ท่องแทง ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.สำราญ ยินดีอารมณ์ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.อภิชาต วรรณภักดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.1 ประสานกำลัง พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. จับกุมนายเขมทัต หรือคิม เลิศลักขณากุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 523 พระราม 2 ซอย 43 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. ก่อนนำตัวเข้าสอบปากคำที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบปรามและภูธรภาค 1 สอบปากคำพยานแวดล้อมเพื่อหาความเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องที่มีความขัดแย้งด้านธุรกิจค้ารถเถื่อนกับผู้ตายควบคู่กับการหาเบาะแสรถฮอนด้า ซีวิค สีขาว พาหนะของมือสังหารในคืนวันเกิดเหตุ กระทั่งได้รับการติดต่อจากนายตั้ม เจ้าของเต็นท์รถมือสองย่านศรีนครินทร์ต้องการนำรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน กน 1552 ลพบุรี มามอบให้ตำรวจ กองปราบปรามตรวจสอบ เพราะพบพิรุธหลายอย่าง รวมทั้งกลัวว่า รถคันดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับคดียิงนายทิวพันธ์ เปาอินทร์ เพราะมีประวัติการครอบครองรถหลายทอด
ต่อมาทางพ.ต.อ.อัคราเดชจึงประสานตำรวจภูธร ภาค 1 หาความสัมพันธ์เชื่อมโยงกลุ่มผู้ต้องสงสัยพบว่า หลังเกิดเหตุรถเก๋งฮอนด้าของมือปืนได้ขับหนีขึ้นทางด่วนงามวงศ์วานแล้วไปลงถนนพระราม 2 จนตอนเช้ามืดวกกลับมาขึ้นทางด่วนอีกครั้ง พร้อมเปลี่ยนป้ายทะเบียนจากป้ายแดง เป็นป้ายขาว เปลี่ยนล้อแม็กและกระจกมองข้างจากดำเป็นขาวอำพรางคดี ตรงกับข้อมูลที่นายตั้มชี้เบาะแส สอดคล้องหลักฐานทางเทคโนโลยีระบุตัวผู้ต้องสงสัยอยู่ในห้วงเวลาสังหารเหยื่อนำไปสู่การจับกุมนายเขมทัต หรือคิม เลิศลักขณากุล อายุ 31 ปี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นลูกน้องมือขวาทำธุรกิจวงการค้ารถกับผู้ตาย ต่อมาภายหลังเกิดความขัดแย้งเรื่องเงินค่านายหน้าค้ารถนำเข้ามูลค่าหลายล้านบาท จึงเกิดความแค้นไปรอดักยิงถึงหน้ารั้วบ้าน อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อยู่ระหว่างพามือปืนสไนเปอร์รายนี้ไปค้นหาพยานหลักฐานทางคดีเพิ่มเติม และหาข้อมูลเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ชัดเจนว่า มีใครบงการอยู่อีกหรือไม่ และจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชลในเวลา 14.00น.วันนี้ ( 25 พ.ค.)