ค้นรถทนายความ '14นศ.' ตามหมายศาลอาญา
ตร.สำราญราษฎร์ ค้นรถทนายความ "14นศ." ตามหมายศาลอาญา
ที่สน.ชนะสงคราม เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ อายุ 29 ปี ทนายความจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน และเป็นหนึ่งในทีมทนายความของนักศึกษาทั้ง 14 คนซึ่งถูกจับกุมไปเมื่อเย็นวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่าน ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ หลังจากที่พนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์นำหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 226/2558 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2558 เข้าตรวจค้นภายในรถยนต์ ฮอนด้า รุ่นซีอาร์วี ทะเบียน กค 9966 ยโสธร ที่จอดบริเวณข้างศาลทหารกรุงเทพ ถ.หลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. จากการตรวจค้นได้ยึดโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ประกอบด้วย 1.โทรศัพท์ยี่ห้อโนเกียร์ สีดำ 1 เครื่อง ใส่ไว้ในถุงกระดาษสีน้ำตาลท้ายรถ 2.โทรศัพท์ซัมซุง สีเขียว-ดำ ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายท้ายรถ 3. โทรศัพท์โนเกียร์ สีชมพู 4.ไอโฟน สีดำ และ 5.ไอโฟน สีขาว โดยรายการที่ 3-5 ใส่ไว้ในถุงกระดาษสีน้ำตาลท้ายรถ
น.ส.ศิริกาญจน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารร่วมกันจับกุมตัวกลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตย 14 คน จากนั้นนำมาสอบปากคำที่สน.พระราชวังก่อนนำส่งศาลทหารกรุงเทพในเวลาต่อมานั้น ตนและทีมทนายทั้งหมดจึงเดินทางไปที่ศาลทหารดังกล่าว ซึ่งตนได้จอดรถไว้บริเวณด้านข้างของศาลทหาร กระทั่งเวลา 00.30 น. ในคืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้าตรวจค้นภายในรถของตน โดยให้เหตุผลว่าต้องการตรวจสอบหาหลักฐานเกี่ยวกับคดี เพราะในรถคันดังกล่าวมีโทรศัพท์ของนักศึกษาที่ถูกจับกุม แต่ตนไม่อนุญาตให้ตรวจค้นเนื่องจากไม่มีหมายค้นรวมทั้งตนในฐานะทนายความต้องรักษาสิทธิและสมบัติของลูกความ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำแผ่นกระดาษเอ 4 มาปิดประตูรถของตนทั้ง 5 ประตู กระทั่งวันนี้เวลาประมาณ 16.00 น. พนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์นำหมายค้นมาขอตรวจค้นรถตนอีกครั้ง พบโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง ซึ่งเป็นของนักศึกษาที่ฝากไว้ จึงตรวจยึดไปตรวจสอบ
ด้าน น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ หนึ่งในทีมทนายความ กล่าวว่า พวกตนยินยอมให้ตรวจค้นรถและนำโทรศัพท์ไปตรวจสอบ แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ เหตุใดตำรวจจึงไม่นำโทรศัพท์ใส่ถุงซีลให้เรียบร้อย แต่กลับนำใส่ถุงซิปรูดธรรมดาและขี่จยย.ออกไปจากที่เกิดเหตุทันที จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาทีจึงนำโทรศัพท์ทั้ง 5 เครื่องมาคืน แล้วเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงนำใส่ในถุงซีล ซึ่งพวกตนคิดว่าไม่ถูกต้อง อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางอย่างในโทรศัพท์ได้ ทั้งนี้พวกตนจะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับตำรวจหลังจากที่มีการพยายามจะตรวจค้นและยึดรถของน.ส.ศิริกาญจน์ไว้เมื่อคืน ถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตามจะมีการแจ้งความเอาผิด พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 ที่ทำการตรวจค้นรถเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่พ.ต.อ.สุริยา จำนงโชค พนักงานสอบสวน .สน.สำราญราษฎร์ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ไปขอหมายค้นและนำหมายค้นไปตรวจค้นรถของน.ส.ศิริกาญจน์ โดยสาเหตุที่ต้องมาลงบันทึกประจำวันและสอบปากคำเบื้องต้นที่สน.ชนะสงครามนั้น เนื่องจากบริเวณที่น.ส.ศิริกาญจน์จอดรถเป็นพื้นที่เขตรับผิดชอบของสน.ชนะสงคราม ทั้งนี้ในส่วนที่เกิดข้อกังขาว่าเหตุใดตำรวจจึงนำโทรศัพท์ใส่ถุงซิปธรรมดาขี่จยย.ออกไปนั้น เพราะตำรวจคนดังกล่าวเข้าใจผิด โดยก่อนหน้านี้มีการตกลงกันว่าจะนำของที่ตรวจยึดได้มาลงบันทึกประจำวันที่สน.ชนะสงคราม แต่ตำรวจคนดังกล่าวเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งภายหลังได้โทรศัพท์เรียกตัวให้นำโทรศัพท์ทั้งหมดกลับมาใส่ถุงซีลให้เรียบร้อย ณ จุดตรวจค้นแล้ว อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และตัวแทนทนายความได้เป็นพยานในการนำโทรศัพท์ที่ตรวจยึดได้ใส่ในถุงซีลปิดอย่างมิดชิด พร้อมลงลายมือชื่อกำกับ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย โดยจะนำส่งพฐ.ตรวจสอบในวันจันทร์ ที่29 มิถุนายน เวลา 13.00 น.ต่อไป