13จำเลยคดียูฟัน ปฏิเสธสู้คดี 5 ข้อหาฉ้อโกงปชช.-พรบ.อาชญากรรมข้ามชาติฯ

13 จำเลยคดี"ยูฟัน" ให้การปฏิเสธสู้คดี 5 ข้อหาฉ้อโกงปชช.-พ.ร.บ.อาชญากรรมข้ามชาติฯ ศาลนัดตรวจหลักฐาน 21 ก.ย.นี้
ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก-ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีบริษัทยูฟัน สโตร จำกัด ฉ้อโกงประชาชน หมายเลขดำ อ.2279/2558 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายอภิชรัชฏ์ แสนกล้า อายุ 40 ปี พร้อมพวกรวม 13 รายซึ่งเป็นเครือข่ายยูฟันฯ เป็นจำเลยที่ 1-13 ในความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 มาตรา 3,4,5,6,7และ25 , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 , ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงฯ ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตรา 19,21,46,48 และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2550 มาตรา 3,14 และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 พร้อมขอให้จำเลยร่วมกันคืนเงินชดใช้แก่ผู้เสียหาย 2,451 คน รวมเป็นเงิน 351,556,314 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เบิกตัวจำเลยทั้ง 13 คน มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบคำให้การ
ซึ่งศาลได้อ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งหมดฟังแล้วสอบคำให้การ จำเลยทั้ง 13 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 21 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลัง ว่าที่ ร.ต.สุรพล สินธุนาวา ทนายความของ น.ส.มนพรรณ์ ธาราบัณฑิต จำเลยที่ 5 กล่าวว่า จำเลยแต่ละคนแต่งตั้งทนายความเป็นของตัวเอง โดยจำเลยทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตามตนได้เคยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยไปแล้วถึง 3 ครั้ง โดยศาลยกคำร้องทั้งหมด จึงได้ยื่นอุทธรณ์ 1 ครั้ง แต่ก็ยกคำร้องเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 164 คน ประกอบด้วย บุคคล 160 ราย นิติบุคคล 4 ราย
โดยในจำนวนผู้ต้องหา 164 ราย อัยการฝ่ายคดีอาญา ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลชุดแรกแล้ว 13 ราย ประกอบด้วย นายอภิชรัชฏ์ แสนกล้า อายุ 40 ปี , นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ อายุ 34 ปี , นายไชธร ทองหล่อเลิศ อายุ 41 ปี , ว่าที่ร.ต.ฤทธิเดช วรงค์ อายุ 39 ปี , น.ส.มนพรรณ์ ธาราบัณฑิต อายุ 41 ปี , น.ส.พีรญา หาญพรม อายุ 26 ปี , นายโชติพัฒน์ วุฒิพันธุ์โภคิน อายุ 38 ปี , น.ส.นิภาพร ละมี อายุ 36 ปี , นายธีรวัจน์ พัชรสุยะใหญ่ อายุ 21 ปี , น.ส. ณัฎฐ์วรัญช์ อุตมะแก้ว อายุ 24 ปี , นายบุน เกียท ชู หรือ นายชัยสงค์ วนัสบดีวงศ์ อายุ 36 ปี ,นายเควิน ลัย อายุ 48 ปี และ นายหยาง หยวนเฉา
ขณะที่วันที่ 28 ก.ค.นี้ อัยการได้นัดให้ผู้ต้องหาอีก 17 รายมารายงานตัวเพื่อเตรียมยื่นฟ้องอีกด้วยจำเลยชุดที่ 2 ต่อศาลในวันดังกล่าวต่อไป โดยผู้ต้องหาทั้งหมดจะต้องยื่นประกันตัวในชั้นศาลอีกครั้ง
ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 134 ราย ประกอบด้วย บุคคลธรรมดา 130 ราย และนิติบุคคล 4 ราย โดยอัยการได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนติดตามจับกุมตัวมาฟ้องภายในอายุความ 15 ปี ส่วนผู้ต้องหาบางราย ที่ได้หลบหนีไปต่างประเทศนั้น อัยการได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบหาแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจน เพื่อทำสำนวนขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป