ศธ.เตรียมคืนเงินอดีตขรก.6ราย กรณีจัดซื้อคอมพ์

ศธ.เตรียมคืนเงินอดีตขรก.6ราย คดีจัดซื้อคอมพ์ หลังศาลปกครองสูงสุด พิพากษาคำตัดสินไม่ชอบด้วยกฎหมาย กระบวนการไม่ถูกต้อง
“ณรงค์” กำชับทุกหน่วยงานให้ดูเป็นตัวอย่าง ย้ำทำรอบคอบระวังการเอื้อประโยชน์ ขณะที่ “กำจร” เตรียมทำแบบฟอร์มให้กรรมการกรอกก่อนพิจารณาโทษเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เมื่อวันที่17สิงหาคม รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ให้เพิกถอนคำสั่งไล่ออก ปลดออกข้าราชการ ศธ.จำนวน6ราย กรณีการจัดซื้อห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์บริหารโรงเรียนประถมศึกษาจำนวน 5,999 หน่วย วงเงิน 360 ล้านบาท เพื่อใช้กับโรงเรียน 30,000 โรง ตั้งแต่พ.ศ.2542ที่ผ่านมา โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าการดำเนินการทางวินัยมีข้อผิดพลาด ในกระบวนการคือ มีผู้ที่เป็นผู้ต้องห้ามมิให้พิจารณาทางปกครองซึ่งก็คือประธานคณะกรรมการสวนทางวินัยกรณีดังกล่าว เป็นคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) สำนักงานปลัด ศธ.ได้ร่วมในการพิจารณาลงโทษด้วย ศาลปกครองสูงสุดจึงวินิจฉัยว่า มติของ อ.ก.พ.ศธ.ครั้งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดังนั้น ศธ. จึงต้องคืนตำแหน่งและเงินเดือนย้อนหลังให้กับข้าราชการทั้ง6รายด้วย โดยจะต้องไปคำนวณจำนวนเงินทั้งหมดซึ่งจะได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนตามปกติเช่นเดียวกับข้าราชการทั่วไป ส่วนผู้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะได้รับบำเหน็จ บำนาญตามสิทธิ โดยจากนี้ศธ. จะต้องประสานไปยังกรมบัญชีกลางเพื่อหารือถึงการจ่ายเงินดังกล่าวต่อไป
“กรณีนี้ถือว่ากระบวนการพิจารณาไม่ถูกต้อง แต่ไม่ได้พิจารณาความผิดของบุคคล ซึ่งก็ต้องไปดูว่าจะมีการรื้อคดีกลับมาพิจารณาใหม่หรือไม่ โดยเรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับพิจารณาคดี ซึ่งพล.ร.อ.ณรงค์พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้กำชับในที่ประชุมให้ระมัดระวังกระบวนการสอบสวนทางวินัย หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของข้าราชการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอาทิ การจัดซื้อจัดจ้างที่อาจจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับญาติ หรือคนใกล้ชิด ก็ถือว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งผู้พิจารณาโทษจะต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยจากนี้ สป.ศธ. จะไปออกแบบแบบฟอร์มเพื่อให้คณะกรรมการกรอกรายละเอียดก่อนพิจารณาโทษว่าตัวเองเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ และส่งให้ฝ่ายเลขาเพื่อเก็บเป็นหลักฐาน ซึ่งมีหลายกระทรวงได้ดำเนินการมาแล้ว“ปลัด ศธ.กล่าวและว่า ส่วนคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาทางวินัยอย่างร้ายแรง รัฐมนตรีว่าการศธ. ก็สั่งให้เร่งดำเนินการแล้วเสร็จโดยแล้วเนื่องจากบางคดีกรรมการหรือประธานสอบสวนกำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่30กันยายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้าราชการทั้ง6รายที่ถูกตัดสินลงโทษไล่ออก และปลดออก กรณีจัดซื้อห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ฯ คือ นายพิสิษฐ์ ศิวิลัย อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(กปช.)และนายชัชวาลย์ วัดอักษร อดีตหัวหน้าฝ่ายสารสนเทศ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(สปช.) นายกมล ภู่ประเสริฐ อดีต เลขาธิการ กปช. นายเลี่ยม พูลเอี่ยม รองเลขาธิการ กปช. นายยุทธชัย อุตมา อดีตรองเลขาธิการ กปช. และนายเกียรติ อัมพรายน์ อดีตผอ.สำนักนิเทศและพัฒนามาตรฐานการศึกษา สปช.