ทหารนำตัว3ผู้ต้องสงสัยคดีบึ้ม ส่งมอบตำรวจ

ทหารนำตัว3ผู้ต้องสงสัยคดีบึ้ม ส่งมอบตำรวจ

นายทหารพระธรรมนูญ คุมตัว 3 ผู้ต้องสงสัยโยงคดีบึ้ม"ราชประสงค์-สาทร" ส่งมอบให้กับตำรวจนครบาล พร้อมให้แพทย์จาก รพ.ตำรวจ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด

กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)-พ.อ.วิจารณ์ จดแตง นายทหารพระธรรมนูญ ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเจ้าหน้าที่ทหารได้คุมตัว นายจาเวด อิคบาล อายุ 59 ปี ชาวปากีสถาน น.ส.ปณิฐ์สรา ชาลีรัฐรมย์ อายุ 40 ปี ภรรยานายอับดุล ตาวาบ และนายชอบ สกุลทอง อายุ 54 ปี คนขับรถแท็กซี่ ส่งคณะพนักงานสอบสวน บช.น. ในฐานะพยานคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหมและท่าน้ำสาทร

โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เป็นผู้รับมอบผู้ต้องหา ซึ่งขั้นตอนการรับมอบตัวพยานได้มีแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ทำการตรวจร่างกายทั้ง 3 คนเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำร้ายขณะอยู่ในการควบคุมตัวของทหาร จากนั้นได้กันสื่อมวลชนออกจากห้องเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้   

ด้านพล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับมอบตัวทั้ง 3 คนจากเจ้าหน้าที่ทหาร มาในฐานะพยาน และต้องให้แพทย์ตรวจร่างกายตามขั้นตอน ว่าได้ถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ หากไม่มีก็จะเริ่มทำการสอบสวน โดยมี พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.3 เป็นผู้ควบคุมการสอบสวน ซึ่งหากไม่มีอะไรสงสัยก็จะดำเนินการส่งตัวกลับไป   

ผู้สื่อข่าวถามว่า พยานทั้ง 3 คนมีความสำคัญอย่างไร พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ทำการสอบสวน แต่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะพยาน ส่วนการจะมีการออกหมายจับหรือไม่นั้น ต้องดูว่าเขาให้การอย่างไร แต่ตอนนี้กองทัพส่งตัวมาในฐานะพยาน  

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพยานทั้ง 3 รายมีความเชื่อมโยงกับขบวนการวางระเบิด ในส่วนของการขนคนเข้าออกประเทศโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายชอบ สกุลทอง เป็นคนขับแท็กซี่พาชายเสื้อฟ้า หรือนายซูแบร์ อับดุลลา และชายไม่ทราบชื่อปรากฎภาพในกล้องวงจรปิดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางกะปิ ไปส่งที่ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ส่วน น.ส.ปณิฐ์สรา มีความเชื่อมโยงคือเป็นภรรยาของนายอับดุล  และเป็นผู้ไปขนข้าวของเครื่องใช้ของนายอับดุล จากจุฑาแมนชั่นย่านอ่อนนุช มาไว้ที่หอพักสตรีอู๊ด ย่าน ม.หอการค้าไทย ทั้งนี้ ยังเป็นคนโบกแท็กซี่ให้ชายเสื้อฟ้าหลบหนีไปด้วย  

ด้านนายจาเวด ถูกทหารควบคุมตัวตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ซึ่งชุดสืบสวนมีข้อมูลว่า นายจาเวด ร่วมทำงานให้กับนายอับดุล ตาวาบ ในเรื่องจัดตั้งบริษัทให้กับนายอับดุล โดยผ่านบริษัทมูบารัค โดยมีการจัดทำวีซ่ามาเลเซีย ให้แก่ชาวอุยกูร์ (ขบวนการลูกแพะ) ชาวอัฟกานิสถานและชาวปากีสถาน เดินทางเข้ามาเลเซีย ทั้งนี้ นายจาเวด  มีความสนิทสนมกับนายอับดุล เป็นอย่างมาก และเคยพบกับนายอับดุล และนายไมไรลี ยูซุฟู หลายครั้ง จึงมีความเป็นไปได้ว่า จะเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดราชประสงค์ อย่างไรก็ตาม  ทั้งหมดอาจถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งต้องส่งเรื่องให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับมนุษย์ (บก.ปคม.) พิจารณาแจ้งข้อกล่าว เนื่องจาก บช.น. รับผิดชอบในด้านสำนวนคดีระเบิดเท่านั้น 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า พนักงานสอบสวนได้เดินทางเข้าไปสอบปากคำนายยูซุฟู ในเรือนจำชั่วคราว ที่มทบ.11 เพื่อสอบถามข้อมูลวัตถุระเบิดที่นำมาใช้ก่อเหตุศาลท้าวมหาพรหม และภาพถ่ายตัวบุคคลที่พบในมือถือของนายยูซุฟู ว่าใครเป็นใครที่ปรากฏในภาพ เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนสอบสวน