ดีเดย์ 1 ต.ค.ปรับค่าโดยสาร 'รถบีอาร์ที' ตามโซน

นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ในฐานะวิสาหกิจกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ในใันที่ 1 ต.ค.นี้กทม.จะปรับอัตราค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) สายสาทร-ราชพฤกษ์ในอัตราตามโซนของการเดินทาง จากเดิมที่จัดเก็บ 5 บาทตลอดสาย ดังนี้ โซนที่ 1 จากสถานีสาทร ถึง สถานีวัดด่าน จำนวน 6 สถานี กำหนดอัตราค่าโดยสาร 5 บาท โซนที่ 2 จากสถานีวัดด่านถึง สถานีราชพฤกษ์ จำนวน 6 สถานี กำหนดอัตราค่าโดยสาร 5 บาท และกรณีเดินทางข้ามโซน กำหนดอัตราค่าโดยสาร 10 บาทตามนโยบายของผู้ว่าฯกทม. เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน และเป็นธรรมกับผู้โดยสารที่เดินทางระยะสั้น และยังเป็นการลดภาระการสนับสนุนของกทม.ในระดับหนึ่ง

“คาดว่าจากการจัดเก็บรายได้ตามโซนจะสามารถจัดเก็บรายได้ค่าโดยสารเฉลี่ย 4.5 ล้านบาทต่อเดือน จากเดิมจัดเก็บรายได้ค่าโดยสาร 5 บาทตลอดสาย สามารถจัดเก็บรายได้ค่าโดยสารเฉลี่ย 2.7 ล้านบาทต่อเดือน จากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 600,000 เที่ยวคนต่อเดือน โดยตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อ 29 พ.ค.2553 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการแล้ว 36 ล้านเที่ยวคน”นายมานิต กล่าว

นายมานิต กล่าวด้วย่วา ขณะเดียวกันเคทีเตรียมเริ่มเก็บค่าโดยสารเรือโดยสารคลองภาษีเจริญจากเดิมที่ไม่เก็บค่าโดยสารในช่วงทดลองให้บริการ จะปรับเป็น 15 บาทตลอดสายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เช่นกัน โดยประชาชนที่ยังไม่มีบัตรแรบบิทสามารถซื้อตั๋วที่ท่าเรือได้เบื้องต้น ก่อนที่กทม.จะปรับใช้ระบบค่าโดยสารจากบัตรแรบบิททั้งหมด ขณะที่ประชาชนที่ถือบัตรแรบบิทอยู่แล้วและต้องการชำระค่าโดยสารโดยใช้บัตรแรบบิทประเภทเติมเงินนั้น ต้องมีมูลค่าคงเหลือในบัตร 15 บาทขึ้นไป โดยประชาชนที่ใช้บริการให้เเตะบัตรบนเครื่องอ่านบัตรที่ติดตั้งบริเวณเสาเรือก่อนลงห้องผู้โดยสาร เมื่อข้อมูลถูกต้องไฟแสดงสถานะจะปรากฎเป็นสีเขียว แสดงว่าได้ชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ส่วนขาออกไม่จำเป็นต่องแตะบัตรออกแต่อย่างใด

“เงื่อนไขที่ได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร ประกอบด้วย ภิกษุ สามเณร แม่ชี ผู้พิการ เด็กที่สูงไม่เกิน 90 เซ็นติเมตร ผู้ที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และมีบัตรผู้สูงอายุโดยสารเรือประจำทาง และนักเรียนในเครื่องแบบที่ศึกษาไม่เกินชั้นประถมศึกษาปีที่ 6” นายมานิต กล่าว