เปิดแอพฯ 'G-News' ติดตามผลงาน 'รัฐบาล'

เปิดแอพฯ 'G-News' ติดตามผลงาน 'รัฐบาล'

"วิษณุ" เปิดอบรมแอพพลิเคชั่น "G-News" ช่องทางสื่อสารผลงานรัฐบาลถึงประชาชน ส่งต้องจากหน่วยงานรัฐโดยตรง แจง “บิ๊กตู่” เป็นแฟนคลับติดตามตลอด

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวเปิดการอบรม“แอพพลิเคชั่น G-News โฉมใหม่ตามนโยบายรัฐบาล” โดยสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน)กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในหัวข้อ “การขับเคลื่อนบริการภาครัฐสู่ประชาชนด้วย G-News” ว่า G-News เป็นแอพพลิเคชั่น นำเอาผลงานรัฐบาลเข้าสู่ระบบแล้วเผยแพร่ให้คนทั้งโลกได้รับรู้ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเครื่องมือของข่าวลวง ข่าวลือโดยเฉพาะข่าวในสังคมโซเชียลมีเดียที่ส่งต่อๆ กันจนไม่ทราบที่มา ปัจจุบันแอพฯ G-News ได้รับความนิยมในวงกว้าง เห็นได้จากยอดดาวน์โหลดถึงปัจจุบัน มีสูงถึง 37,000 ครั้งมีผู้ดาวน์โหลดจากระบบแอนดรอยด์ 30,000 ราย และจากระบบไอโอเอส 7,000 ราย นับเป็นยอดการดาวน์โหลดเทียบเท่ากับสำนักข่าวของภาคเอกชนเลยทีเดียว

นายวิษณุ กล่าวว่า ในช่วงเวลาครึ่งปีที่ผ่านมาแอพฯ G-Newsมีปริมาณข่าวที่หน่วยงานราชการได้ อัพโหลดเข้าระบบเฉลี่ย 2,200ข่าวต่อเดือน จากหน่วยงานที่เข้าร่วม 80 หน่วย รวมแล้วมีข่าวที่เข้าระบบสูงถึง 16,000 ข่าวและจากผู้รับข่าวทั้งหมดมีข่าวส่งถึงมือผู้รับและได้อ่านถึง 330,000 ครั้ง ปริมาณการรับข่าวนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกเดือนและเชื่อว่าทั้งจำนวนข่าว ยอดดาวน์โหลด และการอ่านข่าวผ่านแอพพลิเคชั่นจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้
นายวิษณุ กล่าวว่า หน่วยงานที่ส่งข่าวเข้ามาใน G-News แล้วมีผู้อ่านสูงสุด อันดับ 1 คือ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ อันดับ 2 คือ กรมประชาสัมพันธ์ และอันดับ 3 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สำหรับหน่วยงานที่ส่งข่าวเข้ามาในระบบมากที่สุดคือ กรมประชาสัมพันธ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนบริการภาครัฐสู่ประชาชนด้วยแอพพลิเคชัน G-News สำหรับเป็นช่องทางการแจ้งข่าวสาร ณ จุดเดียว ล่าสุดจึงมีการตั้งคณะทำงานทั้งในส่วนการปรับปรุงแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยมีสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGAเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล

ขณะเดียวกันก็มีการปรับปรุงในส่วนของเนื้อหาข่าวโดยพิจารณาจากพฤติกรรมการรับสื่อแนวใหม่ของประชาชน เพื่อปรับรูปแบบเนื้อหาให้ดึงดูดความสนใจ มีความทันสมัยตรงใจประชาชนมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องเป็นแหล่งอ้างอิงได้

“คนเราจะเอาแต่ทำงานไม่ได้หากผลงานไม่ปรากฏหรือบอกกล่าวแนะนำทำให้ประโยชน์ไม่ตกถึงประชาชน ทำให้เสียเปล่า ที่ผ่านมาส่วนที่ทำก็ทำมาตลอดแต่การสร้างความรับรู้รัฐบาลเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ ได้จัดตั้งกรมโฆษณาการทำหน้าที่เป็นตัวกลางบอกข่าวไปยังประชาชนและนำสิ่งที่ประชาชนร้องเรียนมายังรัฐบาล ก่อนเปลี่ยนชื่อมาเป็น กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งทำงานภายใต้ขีดความสามารถจนเทคโนโลยี เมื่อเทคโนโลยีโซเชี่ยลมีเดียมาถึง รัฐเลยตระหนักว่าโลกออนไลน์ใช้ประโยชน์แก่รัฐได้ เพราะเร็ว สั้น กระชับ สามารถติดตามได้ทุกที่ โดยเฉพาะถ้าสามารถจัดระบบข่าวสารได้ถูกต้อง แม่นยำ ชัดเจน รวดเร็ว ซึ่งรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์จะเกื้อกูลการทำงานของรัฐบาล เพราะเดิมล่าช้าไม่เที่ยงตรง ไม่ทั่วถึงแต่ระบบใหม่นี้สามารถเข้ามาทดแทนกำลังคน สติปัญญา จึงนำมาสร้างความเข้าใจจากรัฐสู่ประชาชน ระบบG-News เป็นหนึ่งในโครงการGOV-CHANNAL ที่เป็นช่องทางการสื่อสารของรัฐไปยังประชาชนบางกลุ่มให้รับรู้ จะได้รัก ชอบ ไม่เกลียด ไม่เบื่อ รัฐบาล” นายวิษณุ กล่าว

“บางเรื่องประชาชนรู้ข้อมูลจาก G-News อาจจะได้รับประโยชน์และคิดหาช่องทางทำมาหากิน หรือเตรียมรับมือจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นซึ่งต่างชาติให้ความสนใจขนาดจ้างคนแปลข้อมูลส่วนนี้ เพื่อนำไปวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจ อาทิ นักลงทุนหรือรัฐบาลต่างชาติ ซึ่งแฟนคลับเหนียวแน่น คือ นายกฯ ทราบว่าท่านว่างเมื่อไหร่ ก็จะเปิดดูเมื่อนั้น เพราะกลัวตกข่าว บ่อยครั้งระหว่างนั่งฟังในการประชุมครม. นายกฯ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ถ้าเห็นมีเรื่องใดน่าสนใจก็จะเบรกการประชุมชั่วขณะเพื่อให้ที่ประชุมให้ดูได้ฟังเรื่องที่นายกฯ กำลังให้ความสนใจ มีบ้างที่ตำหนิ และชื่นชม ดังนั้น ถ้านายกฯ สนใจขนาดนี้ รัฐมนตรีที่เหลือจะไม่สนใจคงอยู่ด้วยกันไม่ได้กระทรวงก็คงไม่สนใจไม่ได้” นายวิษณุ กล่าว และว่า ขอความร่วมมือแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ช่วยกันป้อนข่าวสารเข้ามาให้มาก เพราะในไม่ช้าจะต้องแจ้งครม.ถึงสถิติการส่งข่าวสารต่างของแต่ละหน่วยงาน เพื่อประเมินผลการทำงานของส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายด้วย