'ประวิช' ชี้พ.ร.ป.กกต.เป็นดุลยพินิจกรธ.-สนช.

'ประวิช' ชี้พ.ร.ป.กกต.เป็นดุลยพินิจกรธ.-สนช.

"กกต." เผย 5 พันธกิจสู่การเลือกตั้งในการประชุมมอบนโยบาย "ประวิช" ปัดออกความเห็นร่าง พ.ร.ป. กกต. ชี้เป็นดุลยพินิจ กรธ.-สนช.ยันต้องเคารพกฎหมาย

ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวเปิดการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมความเข้มแข็งและพัฒนาการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ประจำปี 2560โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรของสำนักงาน กกต. ทั้งระดับผู้บริหารและพนักงานให้เกิดความเข้าใจและมีแนวทางชัดเจนในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประหยัดงบประมาณและบรรลุเป้าหมายตัวชี้วัดตามยุทธศาสตร์ สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย ผู้ตรวจการ ผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้การเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ 1-5 จำนวนทั้งสิ้น 120 คน

โดยนายประวิช กล่าวว่า กกต.มีมติชัดเจนถึงเส้นทางสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งมีพันธกิจร่วมกัน 5 ประการ ที่จะต้องเดินหน้าต่อไป คือ 1.นวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการทำประชามติเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และการลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ต 2.เครือข่ายต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นเป็นกลไกการมีส่วนร่วม 3.การคัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นผู้จัดการกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ประจำอย่างน้อย 1 คนในทุกหน่วยเลือกตั้ง โดยเป็นผู้ที่เข้าใจกระบวนการทุกขั้นตอน 4.การจัดหลักสูตรสอบสวนไต่สวนให้พร้อมกับการเลือกตั้ง และ 5.การปรับโครงสร้างเตรียมบรรจุตำแหน่งให้พร้อมในทุกจังหวัด

จากนั้น นายประวิชได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการกำหนดคุณสมบัติของ กกต.ในการร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ไม่ใช่หน้าที่ขององค์กรอิสระใดที่จะพูดเรื่องคุณสมบัติ เป็นไปตามที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. จะกำหนด ซึ่งตนยืนยันอย่างนี้หลายครั้งไม่เปลี่ยนจากเดิม ผู้มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการร่างคือกรธ.และไปสิ้นสุดที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ท่านจะตัดสินใจอย่างไรเป็นอิสระของท่าน จะออกมาอย่างไรก็ปฏิบัติตาม ไม่กังวลกับเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อกังวลว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหากมีกกต.พ้นตำแหน่งไปจะเป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก นายประวิช กล่าวว่า ข้อกังวลดังกล่าวมีคนพูดแล้ว อย่างไรก็อยู่ในดุลยพินิจของกรธ.และสนช.ทุกภาคส่วนมีเสียงส่งไปแล้วกรธ.ก็พิจารณาโดยอิสระแล้ว

ต่อข้อถามถึงกรณีหากนายประวิชคุณสมบัติไม่ครบตามที่กำหนดใหม่ต้องพ้นจากตำแหน่ง นายประวิช กล่าวว่า ตนไม่อยู่ในสถานะที่จะบอกว่าตัวเองเป็นอย่างไร ไม่ใช่หน้าที่ ต้องรอกฎหมายออกมาก่อน ออกมาแล้วทุกคนต้องปฏิบัติ เพราะสิ่งสำคัญของความเป็นพลเมืองต้องเคารพกฎหมาย ไม่ได้ขอปรับแก้อะไรเลย เท่าที่ดูความคิดเห็นที่เสนอไปตามสื่อต่าง ๆ กรธ.ก็รับทราบหมดแล้ว ใช้ดุลยพินิจโดยอิสระ ต้องเคารพกฎหมายบ้านเมืองจึงจะเดินหน้าต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ กรธ.ให้มีการเปลี่ยนแปลง กกต.จังหวัดไปเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งจะมีผลอย่างไร นายประวิช กล่าวว่า กกต.ดูแล้วว่าการมีกกต.จังหวัดมีข้อดีข้อเสียอย่างไร และมีความเห็นเสนอไปแล้วว่าการมีกกต.จังหวัดจำเป็น แต่เพื่อลดงบประมาณก็ให้เปลี่ยนจากการจ่ายเงินเดือนเป็นการจ่ายเบี้ยประชุมได้ ขณะนี้เรื่องผู้ตรวจการเลือกตั้งยังเป็นข้อถกเถียง ซึ่ง กรธ.จะคิดอย่างไรก็ให้ สนช.พิจารณาต่อ ต่างคนต่างทำหน้าที่