เค้นสอบเครือข่ายโกตี๋9คน ขยายผลลุยกลุ่มการเมืองเกี่ยวข้อง
โฆษก ตร. เค้นสอบเครือข่าย "โกตี๋" ทั้ง9คน เร่งตรวจสอบแหล่งที่มาคลังอาวุธ พร้อมตรวจสอบกลุ่มนักการเมืองเกี่ยวข้อง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 20 มีนาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งสะสมอาวุธสงคราม 9 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด เครือข่าย นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนจึงได้ดำเนินการ ตรวจค้นและควบคุมตัวเครือข่ายนายโกตี๋ทั้ง 9 คน ซึ่งการตรวจค้นยังไม่ได้สิ้นสุด
หากการข่าวพบความเชื่อมโยงไปถึงใคร กลุ่มใด หรือพื้นที่ต้องสงสัยใด ก็ต้องดำเนินการตรวจค้นอีกครั้ง ส่วนที่มาของอาวุธปืนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาวุธยุทโธปกรณ์มาจากที่ใด ใครเป็นท่อน้ำเลี้ยง ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ถ้าหากพยานหลักฐานไปโทษใครก็ต้องดำเนินการ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า อาวุธจำนวนมากที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ ทราบว่าเป็นการสะสมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พบพิรุธแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง แต่ปกติโกตี๋มีความชัดเจนเรื่องจุดยืนอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ต้องมีการตรวจสอบว่ามีกลุ่มนักการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขู่ลอบสังหารผู้นำประเทศ การขัดขวางการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย หรือการสะสมอาวุธด้วยหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมก่อนหน้านี้หลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบแต่ส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีการสอบสวนขยายผลอยู่แล้ว ซึ่งทั้ง 9 ราย จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขู่สังหารผู้นำประเทศด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังซักถามอยู่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด โดยปกติเจ้าหน้าที่จะมีการซักถามทุกประเด็นอยู่แล้ว โดยทั้ง 9 คน ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อทางการ เพื่อนำไปขยายผลต่อ สำหรับนายโกตี๋ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ การโพสต์ข้อความผ่านโลกโซเชี่ยลข่มขู่ว่าจะสังหารผู้นำประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระทำความผิด
ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปก่อนหน้านี้แล้ว