ฝากบอก 'บิ๊กตู่' จำไว้จะได้แจ้งความไม่ผิดคน!!
"หมวดเจี๊ยบ" ไล่ "บิ๊กตู่" ลาออกหากรับเสียงวิจารณ์ไม่ได้ พร้อมแจงนามสกุลปัจจุบันตั้งใช้เองคนเดียวไม่ได้เปลี่ยนเพราะแต่งงาน ลั่นจะได้แจ้งความไม่ผิดคน!!
ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ตนเองจะถูกคสช. ดำเนินคดีในข้อหา ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ฯ และ ป.อาญา ม.116 ข้อหา ยุยงปลุกปั่นฯ เพราะวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องถูกวิจารณ์ได้ เพราะตำแหน่งนายกฯต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ไม่ใช่อยากจะมีแต่อำนาจและใช้แต่อำนาจอย่างเดียว ตำแหน่งนายกฯ ไม่ว่าใครจะมาเป็น ก็ต้องถูกตรวจสอบและต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งนั้น และการชี้แจงเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลและการตอบคำถามสื่อมวลชน ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของคนเป็นนายกฯ ที่ต้องทำและต้องตอบคำถาม ไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับอารมณ์ว่าพอใจจะพูดหรือไม่
ทั้งนี้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมายที่มีปัญหามากและสมควรยกเลิก เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็คัดค้านกฎหมายลักษณะนี้ โดยคัดค้านตั้งแต่ตอนเริ่มเสนอกฎหมายนี้ด้วยซ้ำ เพราะมีเนื้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนและความเป็นส่วนตัวของประชาชน ที่สำคัญ ยังเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการควบคุมและแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน ปิดปากประชาชนที่คิดต่าง และเล่นงานนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม แต่สังคมและประเทศชาติได้ประโยชน์น้อยมากจากกฎหมายนี้
นอกจากนี้ที่ผ่านมาจะเห็นว่าประชาชนทั่วไปที่โดนพูดจาหมิ่นประมาทหรือเผยแพร่ภาพลามกหรือไม่เหมาะสมเพื่อใส่ร้ายในคอมพิวเตอร์ ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องร้องในข้อหา ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กันได้ง่าย เพราะเจ้าหน้าที่มักจะไม่รับแจ้งความ แล้วบอกให้ใช้ กฎหมายหมิ่นประมาทแทน แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้มีอำนาจเด้งรับทีนที เหมือนว่าเป็นกฎหมาย ที่สงวนไว้ให้ผู้มีอำนาจใช้เป็นหลัก จะเห็นได้ว่าปัญหาของเรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ที่การวิจารณ์การทำงานของนายกฯ แต่ตัวปัญหา คือพล.อ.ประยุทธ์ หากทนฟังเสียงวิจารณ์ไม่ได้ ก็ควรลาออกไป ถึงท่านไม่อยู่ บ้านเมืองก็ยังเดินหน้าปฏิรูปได้ ทำไมต้องยึดติดกับตัว พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว
"ขอฝากบอก พล.อ.ประยุทธ์ว่า ปัจจุบันนามสกุลของดิฉันคือ ทิวากรดำรง แปลว่า พระอาทิตย์ที่ส่องสว่าง ตั้งนามสกุลใช้เองคนเดียว ไม่ได้เปลี่ยนเพราะแต่งงาน ท่านจำไว้ให้ดี จะได้แจ้งความไม่ผิดคน"