เด็กไทย 3 ล้านคน ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่
หนักกว่ามีสงคราม! เด็กไทย 3 ล้านคน ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่
กรณีอื้อฉาว ครูระดับ ผู้อำนวยการโรงเรียน(ผอ.ร.ร.)มีสัมพันธ์สวาทกับเด็กนักเรียนของตัวเอง ซึ่งเรียนอยู่แค่ชั้น ม.2 เมื่อเราได้รู้เรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงคนนี้แล้ว เรื่องของเธอสะท้อนปัญหาใหญ่ในสังคมไทยปัจจุบันอย่างมากทีเดียว
“ล่าความจริง”เนชั่นทีวีดิจิตอลช่อง22 ได้พูดคุยกับ คุณชญานิศ หวังดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายสังคม องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ข้อมูลว่า ทางยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ ทำการสำรวจทั่วประเทศ พบว่า บ้านเรามีเด็กตั้งแต่อายุ 17 ปีลงมา ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ (หมายถึง พ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่กลับไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ คือไม่ได้อยู่กับใครเลย ไม่ว่าพ่อหรือไม่) จำนวนมากกว่า 3 ล้านคน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และจังหวัดที่มีเด็กลักษณะนี้มากที่สุด คือ จังหวัดบุรีรัมย์
จากข้อมูลที่พบนี้ ถือเป็นสัญญาณอันตราย และมีข้อสังเกตว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนเด็กที่ไม่ได้รับการดูแลจากพ่อแม่ มากกว่าในประเทศที่เกิดภาวะสงครามเสียอีก สำหรับสาเหตุหลักที่เด็กไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ มาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ เพราะพ่อแม่ของเด็กต้องเดินทางออกนอกภูมิลำเนาไปทำงานตามโรงงาน หรือแคมป์ก่อสร้างในต่างจังหวัด เนื่องจากบางรายไม่มีที่ดินทำเกษตรกรรม หรือไม่มีกิจการของครอบครัว ทำให้เด็กไม่ได้รับการดูแล และมีความสัมพันธ์กับพ่อแม่ลดน้อยลง ส่งผลต่อเนื่องให้เด็กกลุ่มนี้ไปสนิทสนมกับกลุ่มเพื่อน จนอาจทำให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมตามมา
ข้อมูลจากยูนิเซฟ ยังพบว่าเด็กเหล่านี้จำนวนหนึ่งอาศัยอยู่กับคนแก่ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย แต่ด้วยสภาพสังคมในยุคโซเชียลมีเดีย มีการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ที่ดูแลเด็กซึ่งอยู่ในวัยชรา อาจตามพฤติกรรมเด็กในยุคนี้ไม่ทันได้ กลายเป็นปัญหาแบบเดียวกัน คือเสี่ยงติดยาเสพติด และมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่สมควร ฉะนั้นการจะแก้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ อย่่าไปดูเพียงปลายเองแล้วตำหนิประณามอย่างเดียว เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร