"ประยุทธ์" เผยดีใจได้เยี่ยม คนลาดกระบัง บอกอย่าไม่เชื่อใครว่าใจร้าย รับพูดไม่เพราะ แต่ใจซื่อตรง ฉีกยิ้มไม่หุบชาวบ้านตะโกนเชียร์ เป็นนายกฯ คนต่อไป
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานกำหนดการลงพื้นที่และพบปะประชาชนในพื้นที่กรุงเทพตะวันออก ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ที่บริเวณคลองลำอ้อต้น แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังบรรยายสรุป เรื่อง การกำจัดผักตบชวาโดยชีววิธี (สารสกัดธรรมชาติ)
ซึ่งนายกฯได้สอบถามสาวโรงงาน jcare ซึ่งผลิตสำลีและ อุปกรณ์การแพทย์ว่า ลำบากมากหรือไม่ ค่าแรงดีหรือไม่ มีงานก็ทำไปก่อน พร้อมทำสัญลักษณ์บอกรักทุกคน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมตลาดเกรียงไกร ซอยเคหะร่มเกล้า 35 พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า ดีใจเป็นนายกฯ ที่มาได้ตรงนี้ เป็นนายกฯแล้วมาได้ทุกที่ เขาบอกว่านายกฯเป็นคนตลก เป็นคนง่ายๆ และตนไม่ใช่เป็นนายกฯที่ใจร้ายอย่างที่ใครเขาพูด อย่าไปเชื่อเขา ตนอาจจะพูดไม่เพราะเท่าไหร่ แต่หัวใจซื่อสัตย์ ซื่อตรง ยืนยันวันนี้ไม่ได้มาแบบหาเสียง แต่มาเยี่ยมประชาชน
พร้อมกันนี้นายกฯได้ร่วมทำไข่เค็มกับชาวบ้าน ขณะที่ประชาชนตะโกนบิ๊กตู่สู้ๆ ซึ่งนายกฯได้ยิ้มอารมณ์ดี พร้อมขอบคุณน้ำใจไมตรีทุกคน และถามชาวบ้านกลับว่า จะให้สู้อะไร ก็สู้กับคนไม่ดี เรื่องความขัดแย้ง เรื่องการรับผลประโยชน์จะต้องไม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันมีชาวบ้านคนหนึ่งได้ตะโกนเชียร์ขอให้เป็นนายกคนต่อไป ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นเครื่องขยายเสียงของนายกฯ ได้เกิดสะดุดเสียงขาดๆหายๆ นายกฯจึงหยอกว่า ท่าทางเครื่องขยายเสียงไม่ค่อยดี ไม่งั้นก็ผอ.เขตไม่ค่อยดี หรือผู้ว่าฯกทมไม่ค่อยดีหรือเปล่า ไมค์ต้องดีกว่านี้
จากนั้นนายกฯ กล่าวอีกว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนวันนี้ตนมาทำงานไม่ได้มาการเมือง เดี๋ยวจะโดนเขาว่าเอาอีก นายกฯอยากไปทุกที่เพราะรู้ว่าประชาชนยากลำบาก ขอให้อดทนกับตนนิดนึง รู้ว่าหลายอย่างเดือดร้อน เราวางพื้นฐานไปได้ทีละขั้น จะต้องดีขึ้น มันดีวันเดียวไม่ได้ อย่าไปเชื่อใครบอกจะดีวันนั้นวันนี้ ใครจะมาหาเสียงก็ชั่งน้ำหนักดูด้วยว่าทำได้หรือไม่ได้
ขณะเดียวกันในช่วงหนึ่งได้มีชาวบ้านมาร้องเรียนนายกฯว่า ไม่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายกฯจึงพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า พูดแบบนี้ได้อย่างไรพูดแบบนี้เสียหาย ไม่ได้บัตรคนจน เพราะเอาไปให้แต่คนรวยหรืออย่างไร เขามีกฎเกณฑ์ของเขาว่ารายได้ 30,000 บาทไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ซึ่งมันก็มาจากภาษี นอกจากนี้ชาวบ้านยังร้องเรียนเรื่องพื้นที่ขายของบนทางเท้า ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า การจะขยับต้องดูด้วยว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ วันนี้ต้องให้โอกาสกับคนอื่น คนที่ใช้จราจรและทางเท้า ต้องไม่มีปัญหา และเป็นไปตามกฎหมาย
"คนที่ไม่ชอบผม ผมจะรักเขาให้มากขึ้น เพราะเขาโกรธและเกลียดผม ผมเกลียดต่อก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เพราะยังไงผมก็ต้องทำงานให้ท่าน นั่นคือรัฐบาล จะนักการเมืองหรือผมก็ต้องทำงานให้เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นจะมาเดินทำไม ไม่ได้หาเสียงหรอก ในเมื่อไม่รักผมอยู่แล้ว นายกฯเกลียดใครไม่ได้หรอก เพราะถ้าเกลียดก็ไม่อยากทำอะไรต่อให้ เว้นแต่คนไม่เคารพกฎหมาย" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ความสงบสุขคือพื้นฐานของประเทศ จะทำอะไรก็ตามบ้านเมืองต้องสงบสุข ยิ่งปีนี้จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขอให้รักกัน และรักษากฎหมายเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อกัน แต่ถ้าเราไม่รักษากฎหมายมันก็ลำบาก
นอกจากนี้ระหว่างการพูดคุยกับชาวบ้านยังมีชาวบ้านมาขอเบอร์โทรศัพท์ นายกฯได้หัวเราะและกล่าวว่าขอโทษที ก่อนจะเดินไปพบพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสอบถามว่าขายดีหรือไม่ และอย่ามาโทษว่าราคาสินค้าแพงเพราะรัฐบาลนี้ วันนี้ลงพื้นที่คนก็มาแออัดอยู่ที่ตลาด เดี๋ยวคนจะมาบ่นว่านายกฯมา ขายของไม่ได้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การลงพื้นที่ตลาดเกรียงไกรครั้งนี้ มีชาวบ้านมาร้องเรียนเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนมาก บางคนขอให้เพิ่มเงิน และบางคนบอกว่ายังไม่ได้บัตร นอกจากนี้ยังมีคนพิการที่เข้ามาร้องเรียนว่ายังไม่ได้บัตรเช่นกันนายกรัฐมนตรีจึงรับเรื่องและส่งเรื่องต่อให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ รับไปดำเนินการ