“ภูมิใจไทย” ปูดผู้มีอำนาจสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ เอื้อบางพรรคในภาคใต้ จี้กกต.ตรวจสอบเอาจริง ปัด วิจารณ์ยุบ “ไทยรักษาชาติ” ปล่อยไปตามกระบวนการ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่พรรคภูมิใจไทย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) และนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคภท. กล่าวถึงกระแสยุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ในช่วงใกล้การเลือกตั้ง โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า พรรคภท.มุ่งเน้นแต่เรื่องนโยบาย จะไม่สร้างปัญหาใดๆ และเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของพรรคทษช. ซึ่งเราไม่เกี่ยวข้อง จึงไม่อยากวิจารณ์ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนที่มีการมองว่าพรรคภท.ตั้งความหวังสูง จะเป็นแกนนำรัฐบาล
“เรายืนยันว่าพรรคมีความพร้อม และการเลือกตั้งเปรียบเสมือนการแข่งขัน ไม่มีใครแข่งขันเพื่อลงไปแพ้ อีกทั้งเมื่อตนได้เห็นนโยบายของพรรค ก็ยิ่งมั่นใจว่าพรรคจะได้รับการตอบรับจากประชาชน ซึ่งคนปรามาสเรา ก็ว่ากันไป เพราะการฝันและลงมือทำ ยังมีโอกาสที่จะเป็นจริง ดีกว่าคนไม่ทำอะไรเลย” พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าว
ด้านนายศุภชัย กล่าวเสริมว่า สาเหตุที่เราประกาศพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคมีความพร้อม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ประกาศตั้งแต่แรกว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนโยบายต่างๆที่มุ่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งชาวบ้านให้การตอบรับ และตัวผู้สมัครทั้ง 350 เขต ส่วนใหญ่อยู่ดูแลในพื้นที่มานาน รวมทั้งเป็นอดีตส.ส. และครั้งนี้ มีการส่งผู้สมัครมากกว่าการเลือกตั้งปี 2554 ที่เราส่งเพียง 150 คน และได้ส.ส. 34 คน โดยมีประชาชนเลือกถึง 3 ล้านเสียง
“แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภท.ส่งผู้สมัครจำนวนมากกว่าเดิม ประกอบกับประชาชนห่างหายจากการเลือกตั้งมา 8 ปี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทำให้เรามั่นใจว่าจะได้ ส.ส.มากกว่าเดิม โดยพรรคมีหลักคิดว่า เราจะเป็นแกนหลัก และพรรคอื่นต้องมาร่วมกับเรา โดยมีจุดยืนคือฟังเสียงประชาชน และพร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน หากไม่มีพรรคไหนนำนโยบายของเราไปปฏิบัติ” นายศุภชัย กล่าว
เมื่อถามถึง กระแสเรียกร้องให้มีการดีเบต พรรคภท.พร้อมจะเข้าร่วมหรือไม่ พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า หากเป็นการพูดเพื่อสร้างความขัดแย้ง พรรคเราไม่สนับสนุน แต่ถ้าเป็นการพูดเรื่องนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน พรรคพร้อมเข้าร่วม เมื่อถามว่า มีการโจมตีว่าพรรคภท.ว่าเก็บบัตรประชาชนใน 2 จังหวัดภาคใต้ เพื่อหวังผลต่อการเลือกตั้ง โฆษกพรรคภท.กล่าวว่า ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมามีแต่การพูดถึงแต่ไม่มีหลักฐาน จึงฝากไปถึงคนที่โจมตีให้หยุดการกระทำเหล่านี้ ซึ่งไม่มีผลดีต่อการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ นายศุภชัย ยังขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ให้ลงมาทำงานเชิงรุก เอาจริงเอาจังในการตรวจสอบในจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ เนื่องจากมีรายงานว่ามีผู้มีอำนาจรัฐเรียกเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อให้ช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เพราะลำพังกกต.นั่งรับเรื่องที่อยู่ที่สำนักงานหรือรับสายโทรศัพท์ร้องเรียนเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพออีกต่อไป