ภท.มั่นใจผู้สมัครส.ส.ราชบุรี คว้าชัยเลือกตั้ง

วานนี้ (9มี.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ตลาดเทศบาลเมือง และตลาดศรีเมือง ร่วมกับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายบุญดำรง ประเสริฐโสภา และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ และทีมผู้สมัครแบบเขตจังหวัดราชบุรี 5 เขต ประกอบไปด้วย เขต 1 นางเพียงเพ็ญ ศักดิ์สมบูรณ์ (ผู้สมัครในพื้นที่) เขต 2 นายพงษ์ศักดิ์ กิจประเสริฐ ราชบุรี เขต 3 นายกล้าหาญ เจริญธรรม ผู้สมัครเขต 4, นายสุวัฒน์ อภิกันตสิริ และ เขต 5 และนายบุญลือ ประเสริฐโสภา เพื่อนำเสนอจุดยืนทางการเมือง และแนะนำนโยบายของพรรค อาทิ การแบ่งปันกำไรข้าว, ยกระดับ อสม., เรียนออนไลน์ และกัญชาเสรี

นายอนุทิน กล่าวระหว่างลงพื้นที่ว่า มั่นใจในตัวผู้สมัครของพรรคว่ามีประวัติการทำงาน เป็นที่รู้จักของชาวราชบุรี จะคว้าชัยชนะได้ในท้ายที่สุด ยิ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่กลับบ้านตัวเปล่าแน่นอน ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงแต่ละพรรคต้องทำเต็มที่ ทำตามแผนที่วางไว้ เป็นเรื่องปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ ใครมีอะไรดีก็ต้องนำเสนอ ส่วนทางพรรคก็เดินตามแผนตัวเอง ซึ่งนโยบายกับพรรคก็ตรงใจประชาชน โดยเฉพาะผลโพลเรื่องการแก้ปัญหาปากท้อง จึงต้องมั่นใจแต่ก็ไม่ประมาทคู่แข่ง

ซึ่งการลงพื้นที่ทุกครั้ง จะได้ความรู้กลับไปพัฒนานโยบาย อาทิ การลงพื้นที่ตลาดศรีเมือง เป็นการเพิ่มความมั่นใจว่านโยบายแบ่งปันกำไรสามารถทำได้จริง เพราะเจ้าของตลาดศรีเมืองได้เข้ามาเป็นคนกลางระหว่างพ่อค้ากับเกษตรกร ส่งผลให้มีการแบ่งปันกำไรอย่างเป็นธรรม ซึ่งเป็นหลักการของพรรคภูมิใจไทย ที่จะให้ภาครัฐเข้าไปดูแลกลไกตลาด ให้ทุกฝ่ายได้รับผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม เรื่องนี้อยู่ที่ความจริงจัง จริงใจ และฝีมือการบริหาร

ส่วนนโยบายกัญชา ตอนนี้หลายพรรคการเมืองเริ่มหยิบมาใช้หาเสียง แต่ภูมิใจไทยไม่กังวล จุดเด่นของนโยบายกัญชาของภูมิใจไทยคือเรามีโมเดล ที่ปฏิบัติอยู่แล้ว และประสบความสำเร็จ ในแคลิฟอร์เนียมาเป็นต้นแบบ ดังนั้น เมื่อเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ และนโยบายของเรา ยังมุ่งมั่นทำเพื่อประชาชน ให้สามารถหารายได้จากพืชชนิดนี้ได้

“ก่อนหน้านี้ มีการมาบอกว่ากัญชาเสรีของภูมิใจไทย จะปลูก จะใช้อย่างไรก็ได้ ขอบอกว่าเข้าใจผิด คำว่าเสรีคือ เราให้ประชาชนได้ บ้านละ 6 ต้น หาเงินเข้าบ้าน เพื่อไม่ให้นายทุนมาผูกขาดหากำไร ส่วนจะปลูกพันธุ์ไหน ใครจำหน่าย นำไปทำอะไร ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ กัญชา เป็นยา เรามองเห็นคุณค่าดังกล่าว เพื่อบรรเทาความทุกข์ของผู้ป่วย ซึ่งต้องการใช้กัญชาเป็นทางเลือกในการรักษา”

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ภายหลังพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ โดยวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ไม่เกินสิ้นปี นายอนุทิน กล่าวว่า ยิ่งเลือกตั้งมากยิ่งได้คนดีเข้ามา นำบทเรียนที่ผิดพลาดมาแก้ไข เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยไม่มองเป็นความวุ่นวายถ้ามีการเลือกตั้งมาก แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นวุ่นวาย แค่ขอให้มีการเลือกตั้ง ส่วนจะเห็นด้วยกับนายชูวิทย์หรือไม่นั้นมองว่า ขึ้นอยู่กับทุกฝ่าย หากยอมรับผลเลือกตั้ง สภาฯก็จะอยู่ยาว หากไม่ยอมรับ เมื่อมีนายกรัฐมนตรีก็อาจยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ซึ่งพรรคการเมืองก็ต้องพร้อมรับเมื่อมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
“ตอนนี้ มีคนมาบอกว่าตนเลือกข้างการเมืองหนึ่งไปแล้ว ขอย้ำว่า เรายังไม่เลือกข้างการเมืองไหนทั้งนั้น เราเคารพกติกาประชาธิปไตย และเราเป็นกลาง ปฏิเสธความขัดแย้ง แต่เราจะยืนเคียงข้างประชาชน อะไรที่ทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ไม่มีปัญหาปากท้อง เราจะทำ”

ด้านนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมองเห็นปัญหาของความขัดแย้ง ที่กระทบต่อการทำมาหากินของประชาชน จึงไม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วม และยืนอยู่ตรงกลาง เราพูดจริง และทำจริง ต่างจากบางพรรคที่ปากบอกว่าไม่เอาความขัดแย้ง แต่เข้าไปมีส่วนร่วมเสียเอง
สำหรับประเทศไทยตอนนี้ เรามีวิกฤติหลายด้าน และเราต้องการนักบริหารมืออาชีพมาช่วยแก้ไข ต้องเป็นคนที่ผ่านประสบการณ์จริง เราขอเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ เพราะท่านผ่านมาบริหารจริงๆ มาแล้ว ด้วยการพาบริษัทที่มีแต่หนี้ให้กลับมาทำไร กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในภาคธุรกิจนั้น ประเทศไทยต้องการคนแบบนี้