กกต.แจงคะแนนที่เหลืออีก5% เป็นเขตเลือกตั้งที่พบข้อร้องเรียน

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง การเปิดเผยคะแนนผลการเลือกตั้งในแต่ละหน่วยทั่วประเทศ ว่าปกติแล้วสำนักงานกกต.แต่ละจังหวัดจะติดประกาศไว้อยู่แล้วซึ่งทางพรรคการเมืองสามารถเข้าไปดูที่กกต.ประจำจังหวัดได้ แต่ในวันศุกร์นี้จะมีการชี้แจงภาพรวมผลคะแนนของแต่ละพรรค และผลคะแนนผู้สมัครส.ส.แต่ละคน. รวมถึงจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งและจำบัตรเลือกตั้งที่ใช้ไปทั้งหมดด้วย ซึ่งคะแนนจากทุกจังหวัดจะส่งมายังกกต.กลาง ภายในวันนี้ และจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งในพรุ่งนี้ เพื่อเรียบเรียงผลคะแนนในแต่ละจังหวัดให้ถูกต้องและจะประกาศให้สาธารณะชนทราบในวันศุกร์ ผ่านทางเว็ปไซต์ของกกต.ส่วนตัวเลขผู้ที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ รวมถึงตัวเลขผลคะแนนที่คลาดเคลื่อนนั้น เป็นเพราะการป้อนตัวเลขเข้า แอพพลิเคชั่น แรพพิท รีพอร์ท ไม่เสถียร จนทำให้การแจ้งจำนวนของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งและคะแนนของผู้สมัครมีความผิดพลาด

พร้อมกันนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึง การตรวจสอบสาเหตุของบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่มาจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่เดินทางมาถึงล่าช้า ว่า บัตรเลือกตั้งที่ประเทศนิวซีแลนด์มาถึงไม่ทันเวลานับคะแนน คือ17.00น. ในวันที่ 24 มีนาคม และการนับคะแนนได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว จึงไม่สามารถนำมานับคะแนนได้อีก และขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ ว่าเพราะเหตุใดบัตรเลือกตั้งถึงเดินทางมาถึงล่าช้า ทั้งนี้ขั้นตอนการนำส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเป็นไปตามระเบียบการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทุกอย่าง ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ที่จะต้องไปรับบัตรเลือกตั้งออกมาจากสายการบิน ประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่กกต. และเจ้าหน้าที่จากกรมการกงสุล แต่ขณะยี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และต้องตรวจสอบในหลายแง่มุม คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะทราบรายละเอียด ทั้งหมด

ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถประกาศผลได้100% โดยประกาศผลได้แค่ 95% คะแนนอีก 5 % ที่เหลือ เลขาธิการ กกต. อธิบายว่า ใน 5% นี้ จะเป็นเขตเลือกตั้งที่พบข้อร้องเรียน และเกิดคดีความ ซึ่ง กกต.จะต้องสอบสวน ไต่สวน ดำเนินคดี หากเขตนั้นมีผู้กระทำผิดจริง เช่น การซื้อเสียง หากพบมีมูล ผู้สมัคร ส.ส.เขตนั้น ที่ได้คะแนนจากประชาชนไม่ว่าจะลำดับใด จะต้องถูกตัดสิทธิ์ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถนำคะแนนไปคำนวณ หาที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ โดยขณะนี้พบข้อเรียนและเป็นคดีแล้วจำนวน 146 คดี ซึ่ง กกต.จะต้องเร่งพิจาณา เพื่อให้ทันการประกาศผลอย่างเป็นทางการวันที่ 9 พ.ค.นี้