รอดูบารมีพี่บิ๊ก ดีลตั้งรัฐบาล
พิธีกรรมเลือกตั้งจบไป แต่ใช่ว่าอะไรๆ จะจบลงง่ายๆ ในเมื่อผลเลือกตั้งที่ออกมาอย่างไม่เป็นทางการ ที่ประกาศโดย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำเอาผู้คนเกิดข้อสงสัยไปทั้งบาง
เมื่อมีพรรคหนึ่งอยู่ๆ คะแนนก็เพิ่มขึ้นเป็นล้านเสียง ขณะที่อีกบางพรรคคะแนนกลับลดลง
รวมถึงกรณีที่ กกต. วินิจฉัย ว่าบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์ ไม่ถูกนับเป็นคะแนน ด้วยเหตุผลที่หยิบยกขึ้นมาอ้างว่าส่งมาไม่ทันเวลา!!!
ความเคลือบแคลงสงสัยเหล่านี้ที่มีต่อ กกต. ได้ปลุกสังคมให้เคลื่อนไหว ไม่ยอมอยู่เฉย หลายภาคส่วนออกมาเรียกร้องให้ กกต. เปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอย่างละเอียด ทั้งผู้มาใช้สิทธิ บัตรเลือกตั้ง รวมถึงการนับคะแนน
มีจำนวนไม่น้อยที่ปักใจเชื่อไปเรียบร้อยแล้วว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส จึงร่วมลงชื่อถอดถอนกกต.ออกจากตำแหน่ง
ประเด็นถอดถอน กกต. ที่ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนอยู่ในขณะนี้ แม้ยังไม่รู้ว่าจะมีการยื่นให้ ป.ป.ช. พิจารณาได้เมื่อไหร่ แต่นั่นคงไม่สร้างความกังวลอะไรให้กกต.
หากสิ่งที่น่ากังวลคงเป็นประเด็นที่ถูกจี้ให้เปิดคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้ง จำนวนผู้มาและไม่มาใช้สิทธิ จำนวนบัตรดี บัตรเสีย ต่างๆ เหล่านี้ต่างหาก ที่กกต. คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
แล้วถ้าปล่อยนานวันเข้า ก็ยิ่งจะถูกสังคมขย่ม ในประเด็น บัตรเขย่ง แล้วจะยิ่งลามมาถึงรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จึงไม่ต้องแปลกใจที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ถึงกับออกปากว่า กกต. ควรออกมาชี้แจงแถลงไขในทุกข้อที่สังคมคาใจ
ไม่อย่างนั้นคนที่เคลื่อนไหว จ้องจะยกระดับการกดดันเรียกร้องมากขึ้นไปอีก
ดังนั้น ถ้า กกต. มั่นใจว่าตัวเองปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องเป็นธรรมแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
เพราะถ้าปล่อยเลยตามเลย ไม่เคลียร์ปมคาใจผู้คน เมื่อถึง 9 พ.ค. ที่จะประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ตามมาด้วยการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลย่อมมีแต่เรื่องวุ่นๆ ตามมาไม่จบแน่
ขณะที่ทางฟากฝั่ง ประชาธิปัตย์ ยังไม่แน่ว่าออกหน้าไหน บางกลุ่มในพรรคออกตัวแรงเห็นว่าควรร่วมงานกับพลังประชารัฐ ขณะที่อีกกลุ่มต้องการให้เป็นฝ่ายค้านอิสระ แต่ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ ประชาธิปัตย์ จะอ่อนข้อยอมร่วมรัฐบาล กับ พลังประชารัฐ ไม่ต่างจาก ภูมิใจไทย ที่แม้จะมีกระแสข่าวว่า เพื่อไทย พร้อมประเคนเก้าอี้ นายกฯ ให้ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ก็ตาม
ขณะที่ พลังประชารัฐ ที่พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พยามสยบความเคลื่อนไหว ไม่ยอมให้ข่าวหลุดรั่วแม้แต่น้อยว่าดอดคุยดอดต่อสายทาบใครพรรคไหนบ้าง
แว่วๆ มาว่าในพรรคก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ว่า แกนนำพลังประชารัฐจะเสียทีให้พรรคร่วมบางพรรคที่ถือดุลเหนือกว่าต่อรองคว้าเก้าอี้กระทรวงเกรดเอไปครองเหมือนสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เผลอๆ งานใหญ่ขนาดนี้อาจต้องให้คนใหญ่เป็นคนดีลแทน เพื่อไม่ให้เข้าเนื้อพลังประชารัฐ หรือให้ใครเขาลูบปาก ตราหน้าว่าพรรคนี้หมูได้
แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะร่วมตั้งรัฐบาล แกนนำจัดตั้งต้องยอมบ้าง แต่จะยอมแค่ไหน คงต้องดูบารมีพี่บิ๊ก!!!