“บิ๊กตู่” ลั่นไม่ต้องการให้งบฯ รั่วไหล ซัด “คนเลว” หาทางซิกแซ็ก เอาชนะกม. ชี้จากนี้ใครมาเป็นผู้นำ ก็ขอให้ทำเพื่อประเทศ ไม่ใช่เพื่อใคร ระบุช่วงนี้อ่อนไหวเป็นพิเศษ ซัดสื่อใหญ่ พาดหัวเท่าหม้อแกง ถามต้องการความขัดแย้งหรือ
เมื่อวันที่ 4 เม.ย.62 เวลา 09.00 น. ที่สโมสรทหารบก (ส่วนกลาง) วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหลังการมอบรางวัลว่า รางวัลนี้เกิดขึ้นมาในสมัยรัฐบาลนี้ ตั้งแต่ปี 57 รัฐบาลให้ความสำคัญกับการประเมินผลงานของหน่วยงานต่างๆ ในอนาคตจะต้องมอบรางวัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกำลังใจให้หน่วยงานต่างๆ ได้ปรับปรุงพัฒนา แม้ในการทำงานอาจมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง แต่ในการทำงานมีกฎหมายกำหนดไว้หมดแล้ว ซึ่งองค์กรต่างๆที่ได้รับรางวัลในวันนี้ได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว แต่จะทำอย่างไร ให้การทำงานของภาครัฐสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปีซึ่งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้น ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นการสืบทอดการทำงานของหน่วยงานราชการ ซึ่งภาครัฐและเอกชน ประชาชน จะต้องมีส่วนร่วม ดังนั้น ทุกคนจะต้องทำความเข้าใจว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้อย่างมีแบบแผน ใช้งบประมาณอย่างคุณค่า ทั้งในด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ฯลฯ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีแนวทางในการผลิตข้าราชการที่มีความสามารถเฉพาะทางขึ้นมา โดยให้สำนักงาน กพ. , กพร. พิจารณา ว่าเราจะมีข้าราชการรุ่นใหม่อย่างไร แต่ต้องคำนึงถึงข้าราชการเก่าด้วย ต้องพัฒนาควบคู่กันไป เพื่อวันหน้าเราจะได้มีรัฐบาลอิเล็คทรอนิกส์อย่างแท้จริง โดยให้เป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ตามหลักการ 6 ข้อ ส่วนกลไกการป้องกันการทุจริตนั้น มีกระบวนการตรวจสอบทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงองค์กรอิสระ แม้ในกระบวนการตรวจสอบอาจจะมีรั่วไหลไปบ้าง แต่นายกไม่ต้องการให้เกิดความรั่วไหลเลย จึงต้องมีการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมควบคู่กัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้มั่นคงเพื่อพัฒนาประเทศไปสู่นโยบาย 4.0 เราจะไม่ผลีผลามเดินไปทั้งหมด แต่จะต้องมีการเตรียมการให้ทุกอย่างสอดคล้องกัน วันนี้เราใช้คนทำงานกับเครื่องมือ ไม่ได้มุ่งเน้นการใช้หุ่นยนต์แบบเลาะเทอะไปหมด เพราะหุ่นยนต์ต้องใช้ในอุตสาหกรรมที่จำเป็น มีความอันตราย แต่ในขั้นตอนการผลิต จะต้องมีคนควบคุมทั้งหมด วันนี้หลายคนอาจบอกว่าประเทศไทยยังไปไม่ได้ ซึ่งไม่จริง เพราะวันนี้ก็มีการใช้ไปแล้วในบางส่วน และวันหน้าก็อาจการขาดแคนแรงงาน การจะให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ไม่เซไปเซมา ไม่มีปัญหาการฟ้องร้อง จะต้องมีการจัดการที่ดี มีวินัยการเงินการคลัง มีการตรวจสอบ และมีความโปร่งใส
“เราต้องตอบคำถามธรรมาภิบาล 6 ข้อให้ได้ ถึงจะเป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลครบ ปัจจุบันนี้เรามีหลายหน่วยงานที่พันกันเยอะมาก บางคนมองว่าหน่วยงานนั้นหน่วยงานนี้ไม่ดี แต่ทั้งหมดต้องทำงานด้วยกัน เป็นเครือข่ายใยแมงมุม วันนี้เราจึงแก้ไขกฎหมายหลายตัวแบบบูรณาการเพื่อลดขั้นตอนให้สามารถทำงานได้ แต่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่เพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนกฎหมายการเอาผิดเอาโทษนั้นมีอยู่แล้วอย่างเพียงพอ แต่ทุกคนอยากให้มีมากขึ้น แต่บางคนมักหาวิธีซิกแซ็กหรือทำให้มากกว่ากฎหมาย เพื่อเอาชนะกฎหมายทุกตัว นั่นคือคนเลว อย่างนี้ต้องเรียกว่าคนเลว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเราต้องสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้ได้ ข้าราชการทุกคนต้องทำตัวให้เป็นข้าราชการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องดูแลประชาชนทุกคน และในช่วงนี้ไม่อยากให้มีเรื่องเกิดขึ้น เราทำงานร่วมกันมา 5 ปีแล้ว หวังอย่างยิ่งว่าการทำงานต่อจากนี้ ไปไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้นำ ก็ขอให้ร่วมมือกันทำงานแบบนี้ เพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หวังว่าทุกคนจะช่วยกันรักษามาตรฐานที่ดีต่อไป สร้างความสงบสุข เรียบร้อย ไม่สุจริต โปร่งใส ทุกคนต้องทำถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมสืบทอดรักษาต่อยอดจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในช่วงนี้ คือช่วงการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ ทุกคนจึงต้องมั่นใจในการทำงาน เช่นเดียวกับตน ที่มีความมั่นใจว่าได้ทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความเอาใจใส่ แต่อาจยังไม่พอ จะเห็นว่าดวงตาของนายกฯก็แย่ลง แต่ไม่เป็นไร ทุกคนเสียสละเข้ามาแล้ว เป็นข้าราชการเรียกร้องอะไรไม่ได้มากนักหรอก
ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าบุคลิกของตนก็เป็นแบบนี้ เพราะอยู่กับทหารมาโดยตลอด จึงพูดแบบนี้พูดเล่นบ้างอะไรบ้าง บางคนไม่คุ้นชิน ก็เอาไปเป็นสาระสำคัญ เช่นเดียวกับสื่อที่จะเอาไปพาดหัว
“ไม่รู้อะไร ผมขี้เกียจไปรบด้วย ถ้าบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยทุกคนก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย วันนี้วุ่นวายกันหมดแล้ว กำลังดีเรียบร้อยอยู่ จะให้มันไม่ดีขึ้นมาอีก ผมขอพูดอีกครั้ง ในเรื่องการสืบทอดอำนาจของผมนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ นี่คือการเป็นประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการ ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งก็ว่ากันไปผมไม่ได้ต้องการไปเกี่ยวข้อง ผมไปเกี่ยวข้องได้ที่ไหน ไปสั่งเขาได้ที่ไหน เมื่อเลือกตั้งกันมาแล้ว ทุกคนเป็นคนเลือกก็จบกันตรงนั้น แล้วก็ไปแก้ปัญหากันมาให้ได้” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า “พอพูดแบบนี้ เดี๋ยวสื่อเข้าไปรอถามเรื่องต่างๆ เรื่องฟ้องเรื่องไม่ฟ้อง ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับผม แต่ถ้าผมถูกฟ้องเมื่อไหร่ ผมก็จะตอบ วันนี้ไม่เกี่ยวกับผมยังไม่เกี่ยวซักอันนึงเลย ดังนั้น สื่อไม่ต้องมาถามอะไรผมอีก ผมไม่ตอบ ขี้เกียจตอบ ความขัดแย้งมันเยอะพออยู่แล้ว สื่อก็ถามไม่กี่เรื่อง พาดหัวหนังสือพิมพ์แล้วก็ให้ผมไปตอบ พวกท่านก็เขียนต่ออีก อย่างวันนี้หนังสือพิมพ์รายใหญ่ฉบับหนึ่ง พาดหัวข่าวสองชั้น ตัวเท่าหม้อแกง ถามว่าท่านต้องการความขัดแย้งอีกหรืออย่างไร รับผิดชอบกันด้วยนะ ไม่อยากเอ่ยชื่อ ไปหากันเอาเอง เป็นประจำ”
ภายหลัง ผู้สื่อข่าวพยายามถาม
ว่า พล.อ.ประยุทธ์ หมายถึงหนังสือพิมพ์ฉบับใด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม แต่กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่ตอบไปหากันเอาเอง”