"พล.อ.ประยุทธ์" ลั่น "เลือกตั้ง" แล้วต้องสงบ ระบุปีนี้ปีมหามงคล ชี้ผู้ใหญ่-เด็ก ทะเลาะกัน วันหน้าอยู่ไม่ได้
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 เวลา 10.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เดินทางไปยังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก โดยกดปุ่มเปิดผ้าแพรคลุมป้ายสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก และช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะประชาชนบริเวณสถานีรถไฟฯ พร้อมกล่าวสวัสดีเป็นภาษากัมพูชาว่า “ซัวสะเดย” เราคนไทยด้วยกัน ต้องรักกันสู้ๆทุกคนเรารักกันอยู่แล้ว ตนรักทุกคน วันนี้มาเพื่อพี่น้องทุกคนและไม่ได้จบแค่นี้ มันจะเกิดต่อยอดอีก ตนเป็นคนสระแก้วเหมือนกันเคยอยู่ที่นี่หลายปี คนเราต้องมีความหวังที่ถูกต้องเป็นไปได้ ทุกอย่างต้องทำด้วยแผนงานและโครงการ ทั้งเรื่องน้ำ ถนนเส้นทางด่านอีกมหาศาล ที่จะต้องแก้ เพราะที่ผ่านมาทำกันน้อย และในพื้นที่สระแก้ว รัฐบาลได้ให้งบประมาณลงมาทางผู้ว่าราชการจังหวัด
นายกฯ กล่าวว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งไปแล้ว ก็ต้องเกิดความสงบ ให้เลือกตั้งแล้วยังไม่สงบก็ไม่ได้ ปีนี้เป็นปีมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กำลังใกล้เข้ามา วันนี้นายกฯตัวจริงมา ที่อยู่ในโทรทัศน์นั้นตัวปลอม ขอให้ช่วยกันทำบ้านเมืองให้สุขสงบ พัฒนาร่วมกัน ความหวังความฝันของทุกคนต้องใช้เวลาสักนิด วันนี้กำลังคุยกับสมเด็จฯฮุนเซ็น เพื่อวันหน้าจะทำเส้นทางต่อไป เราเป็นประเทศเพื่อนบ้านต้องรักกัน ข้อสำคัญคนไทยต้องรักกัน จะรักใครชอบใคร เป็นเรื่องส่วนตัวอย่าเอาเรื่องของคนอื่นมาทะเลาะกัน เพราะจะกลายเป็นเครื่องมือ
“ ขอให้ฟังผมไว้ รัฐบาลนี้ยืนยันสิ่งต่างๆ ที่วางไว้จะเดินหน้าต่อไป ทีละ 5 ปีจนถึง 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ หากทุกคนเคารพกฎหมายกติกาทุกอย่างมันไปได้หมด วันนี้ผู้ใหญ่ เด็ก ถ้าทะเลาะกันวันหน้าก็อยู่กันไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ สังคมไทยไม่มีแบบนั้น เราจะต้องดูแลกัน ทำอย่างไรให้เมืองเจริญขึ้น รัฐบาลกำลังทำตรงนี้ สิ่งสำคัญเราต้องเคารพกฎหมาย ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พลเรือน ตำรวจ ทหารประชาชน เป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น อย่าให้ใครมาสร้างความแตกแยก ทุกคนมีพ่อแม่ พี่ป้าน้าอา ใช่หรือไม่ แต่บางคนบอกว่าไม่ต้องมี มันใช่หรือไม่ มันไม่ได้ความผูกพันมันสูง ผมเอาหัวใจลงไปขอความรักความสามัคคีคืนมาให้กับประเทศไทย สร้างความสุขหลังเลือกตั้ง พระราชพิธีบรมราชาภิเษกกำลังจะเกิดขึ้นต้นเดือนหน้าทำให้สงบ รัชกาลนี้จะต้องเกิดความสงบสุข ใครทำผิดจะต้องถูกลงโทษ ซึ่งผมไม่อยากให้ใครถูกลงโทษ ถ้าทำความดีไม่มีถูกลงโทษ สังคมประเทศไทยต้องอยู่ด้วยคนทุกช่วงวัยเราต้องเลิกในสิ่งที่ไม่ดีสังคมเรามีปัญหาพอสมควรแล้ว” นายกฯ กล่าว
จากนั้น เวลา 10.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ และสมเด็จฮุนเซน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยนายกฯ กล่าวว่า พิธีวันนี้ถือเป็นการมอบของขวัญให้ 2 ประเทศ ขอบคุณสมเด็จฮุนเซ็นนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชา ที่มีการเดินตามคำมั่นสัญญาและร่วมมือลักษณะเช่นนี้จะเกิดขึ้นในอนาคต และทำอย่างไรให้เป็นชายแดนปลอดภัยแก้ปัญหาให้ประชาชนทั้งสองประเทศ ขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งไทยและกัมพูชาที่ทำให้โครงการนี้สำเร็จดียิ่ง ขอให้ทุกคนมีความสุข สวัสดีปีใหม่ ขออวยพรสงกรานต์ที่ผ่านมา ให้สมเด็จฮุนเซนและคณะรัฐมนตรีฝ่ายกัมพูชาและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนประสบความเจริญยั่งยืนร่างกายสุขภาพแข็งแรงมีความสำเร็จตลอดไป เพื่อทำให้ประชาชนของเราทั้งสองประเทศ
ภายหลังการลงนามร่วมกัน รองผู้ว่าฯรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย มอบด้ามเกียร์รถไฟให้แก่ผู้ว่าการรถไฟกัมพูชา โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ และ สมเด็จฮุนเซน ร่วมเป็นสักขีพยาน ก่อนจะออกเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึกไปยังสถานีปอยเปต
ทั้งนี้ไทย และกัมพูชา มีความตกลงการเดินรถไฟร่วมกันในอดีต ตั้งแต่ 2485 และเดินรถร่วมกันครั้งสุดท้าย เมื่อ ก.ค. 2517 นับถึงปัจจุบันหยุดเดินรถร่วมกันมาแล้ว 45 ปี ซึ่งจากกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศในกรอบต่างๆ ที่กำหนดให้เชื่อมโยงระบบรถไฟเข้าด้วยกัน ทั้ง 2 ประเทศจึงฟื้นฟูการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟ และเห็นตรงกันให้มีความตกลงดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือทั้งการโดยสาร การส่งสินค้าทางรถไฟ และความร่วมมือด้านต่างๆ
นอกจากนี้ไทยยังได้ส่งมอบรถไฟดีเซลรางให้กัมพูชาเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ โดยรถไฟดีเซลรางนี้ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการเดินรถดียิ่งขึ้นและได้ปรับปรุงรถดีเซลราง 4 คันให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยมีมูลค่าการดำเนินการต่างๆ 24 ล้านบาท รวมทั้งการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาด้วย