'ประจิน' แทงกั๊กข้อเรียกร้องปลูกกัญชาเสรี แย้มให้คำตอบ 19 พ.ค.
“ประจิน” แทงกั๊กข้อเรียกร้องปลูกกัญชาเสรี แย้มให้คำตอบ 19 พ.ค. ยันแผนขับเคลื่อนไม่โยงฟอร์มทีมตั้งรัฐบาล. ชม “เนวิน” เจตนาดี ขอใช้ม.44 ไม่ได้ข่มขู่-กดดัน แค่ต้องการให้ประเทศ-ปชช.ได้ประโยชน์สูงสุด พร้อมส่งกัญชาของกลางปลอดเคมีผลิต 16 ตำรับยาไทย
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ ครั้งที่ 2/2562 ว่า ประเด็นหลักๆ ที่ต้องขับเคลื่อน คือ การให้ผู้ป่วยที่ต้องใช้กัญชารักษามาลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นภายใน 19 พ.ค.นี้ และปัจจุบันมียอดผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 5,000 ราย ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หารือกับหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชนที่ผู้ใช้กัญชามีความไว้วางใจที่จะแจ้งความประสงค์ในการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ทั้งนี้หลังจากครบกำหนดให้ลงทะเบียนภายใน 90 วันแล้ว กระทรวงสาธารณสุขยังไม่รับรองว่ายาหรือน้ำมันกัญชาที่สกัดนั้นจะรักษาอาการป่วยได้หายขาดจริง แต่สิ่งที่จะทำคือตรวจสอบไม่ให้มีสารปนเปื้อนในกัญชาที่จะนำไปสกัดเป็นตัวยา เพราะเกรงจะส่งผลร้ายต่อผู้ป่วย ทั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมหาวิทยาลัย วิสาหกิจชุมชน และแพทย์แผนไทย แพทย์แผนปัจจุบันที่เกี่ยวข้องอบรมเพื่อขึ้นทะเบียนการใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่ 2 คือ การแก้กฎหมายที่เกี่ยงข้อง โดยเฉพาะกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากไทยเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติและประชาคมอาเซียน ไทยยังยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมายเป็นสิ่งถูกกฎหมายและจะให้ประโยชน์เพื่อผลวิจัยทางการแพทย์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากมีประกาศรับรองตำรับยาไทย 16 ชนิด ทำให้มีข้อกังวลถึงวัตถุดิบกัญชาที่จะนำมาป้อนเพื่อผลิตเป็นตำรับยาต่างๆ โดยในช่วงเริ่มต้นจะนำกัญชาของกลางที่ผ่านการตรวจสอบว่าไม่มีสารเคมีหรือโลหะหนักปนเปื้อนส่งให้ผลิตเป็นตำรับยาต่างๆ ขณะเดียวกันจะเร่งพัฒนาสายพันธุ์กัญชาภายใน 4-6 เดือนเพื่อนำไปสนับสนุนกำลังการผลิต
"จากผลการวิจัยพบวาา สาร THC หรือสารเสพติดในกัญชาจะมีผลต่อเด็กและเยาวชน จึงต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนตกเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยจะให้กระทรวงมหาดไทยและสาธารณสุขวางแนวทางป้องกันเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กับการป้องกันไม่ให้มีการเสพติดกัญชาและขอยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามทำให้กัญชาและกัญชงเป็นพืชทางเลือกเพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนไทยมากที่สุด" พล.อ.อ.ประจินกล่าว
เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของนายเนวิน ชิดชอบ ที่ต้องการให้ใช้มาตรา 44 ปลดล็อคให้ปลูกกัญชาได้เสรีครัวเรือนละ 6 ต้น พล.อ.อ.ประจิน ยอมรับว่าที่ผ่านมาสนใจกิจกรรมดังกล่าวจึงได้ส่งผู้แทนไปร่วมสังเกตการณ์และเก็บข้อมูลมาเป็นประเด็นหารือโดยมอบให้คณะกรรมการขับเคลื่อนซึ่งมีปลัดกระทรวงยุติธรรมและสาธารณสุขเป็นผู้รวบรวมแผนงานทั้งหมด รวมถึงการเก็บข้อมูลการจัดงานพันธุ์บุรีรัมย์ด้วย ทั้งนี้เท่าที่มองเจตนาไม่คิดว่าข้อเรียกร้องของนายเนวินเป็นการกดดันหรือข่มขู่แต่ต้องการทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ในส่วนของคณะทำงานมีกำหนดที่จะสรุปให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 19 พ.ค.นี้. ดังนั้นแผนงานในการขับเคลื่อนกัญชาจึงไม่มีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล
ด้านน.พ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการสำนักงานอาหารและยา(อย.) กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่ข้อมูลที่ระบุว่ากัญชาเสพติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่ รัฐบาลสามารถเปิดกว้างให้ใช้ได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องมีมาตรการควบคุมให้รัดกุมว่า ในมุมมองของกระทรวงสาธารณสุขกัญชายังเป็นพืชเสพติดจึงไม่อยากให้เยาวชนและคนไทยเสพติด ที่ผ่านมามีการศึกษาประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น ยอมรับว่ายังไม่เคยศึกษาข้อเปรียบเทียบเรื่องโทษและการเสพติดระหว่างกัญชา กับเหล้าและบุหรี่ แต่บางประเทศพบภาวะแทรกซ้อนในผู้ที่ใช้กัญชาเป็นเวลานาน