ปล่อยตัว 5 แกนนำพธม.แล้ว
แกนนำพธม.ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมยอมรับคำพิพากษาในคดีอื่นๆที่เหลือ ไม่หนีศาล ลั่น 87 วันในคุกเหมือนดีทอกซ์ชีวิต วอนสังคมให้โอกาสผู้พ้นโทษอย่ามองเป็นขยะ
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร -10 พ.ค.62 เวลา 10.00 น. นายพิภพ ธงไชย , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายสุริยะใส กตะศิลา , นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน โดยผู้พ้นโทษได้ร่วมก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้นได้ถ่ายภาพรวมกับกลุ่มแนวร่วม พธม. ที่มารอให้กำลังใจที่ด้านหน้าเรือนจำ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณในโอกาสมหามงคลพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมี พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษจนมีการปล่อยตัวในวันนี้ ในฐานะพสกนิกรมองว่าการปล่อยตัวเป็นเรื่องที่น่ายินดี และจากการศึกษา พ.ร.ฎ. ฯ พบว่ามีเนื้อหาใน 3 ประเด็น 1 ก่อนได้รับอภัยโทษทุกคนต้องผ่านหลักสูตรการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย พวกตนทั้ง 5 ก็เข้ารับการอบรมเป็นเวลา 5 วัน ทำให้รับรู้ว่านักโทษทุกคนอยากกลับบ้าน 2.มีหน่วยงานระดับกระทรวง 7 แห่ง เข้ามาช่วยดูแลติดตามไม่ให้กลับมาทำผิดซ้ำ และ 3.ใน พ.ร.ฎ.แนบท้ายมีความผิด 10 กลุ่ม เช่น คดีทุจริตวงราชการ ทางเพศ ค้ามนุษย์ คดีป่าไม้บุกรุกอุทยาน และ อื่นๆ ที่ไม่ได้รับการอภัยโทษปล่อยตัว ซึ่งเป็นปณิธานของในหลวง ร.10 ที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข และให้กลับตัวเป็นคนดีไม่กระทำผิดซ้ำ
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในนามผู้ถูกคุมขังและครอบครัว รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและขอทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ประเทศชาติต่อไป ที่ผ่านมาเมื่อศาลพิพากษาว่ากระทำความผิดก็ยอมรับเคารพการตัดสินของศาลในทุกคดี ไม่หลบหนี
ทางด้านนายสุริยะใส กล่าวว่า ถือเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิตที่ต้องนำมาคิดทบทวน ในช่วงอยู่ในเรือนจำ เป็นเวลา 87 วัน แม้ศาลตัดสินว่ากระทำผิด ตนก็ยอมรับไม่หลบหนี การโจมตีศาลและตำหนิคำพิพากษาที่ไม่ถูกใจไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่การยอมรับคำพิพากษาในชั้นฎีกาเป็นทางเดียวที่ทำให้บ้านเมืองอยู่รอด อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณผู้คุมและเพื่อนนักโทษซึ่งเปรียบเสมือนครู และขอวอนสังคมอย่ามองนักโทษเป็นคนเลวหรือเป็นขยะ เพราะจำนวนไม่น้อยผิดพลาดแค่ครั้งเดียว บางคนเข้าคุกเพราะไม่มีเงินประกันตัว ดังนั้น การปฎิรูปกระบวนการยุติธรรมจึงเป็นหน้าที่สำคัญที่เราต้องช่วยกัน
"ระหว่างติดคุกผมได้เจอกับคนเสื้อแดง คุยกันทุกเรื่องแต่ทุกคนมีบทเรียนเฉพาะตัว เราจึงต้องกล้าวิจารณ์ชีวิตตัวเอง 87 วันของผมเป็นการดีท็อกซ์ชีวิตตัวเอง"นสยสุริยะใสกล่าว
ด้านนายพิภพ กล่าวว่า ทุกคนในคุกต่างก็เป็นมนุษย์ที่อยากเป็นคนดี ขึ้นอยู่กับสังคมว่าให้โอกาสหรือไม่ จากสภาพความแออัดในคุก ทำให้ต้องทบทวนกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ไม่ใช่แค่นำคนมาติดคุก แต่ควรนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาดูแลผู้ต้องหาระหว่างต่อสู้คดี และขอฝากไปยังคณะนิติศาสตร์ทุกมหาวิทยาลัยเปิดภาควิชาคุกศึกษา นำผู้พ้นโทษและพัสดีมาร่วมถอดบทเรียนเพื่อแก้ปัญหานักโทษล้นคุก
อย่างไรก็ตาม แกนนำ พธม. ปฏิเสธให้ความเห็นทางการเมืองหรือการเคลื่อนไหวต่างๆ โดย นายสุริยะใส อ้างว่า อยู่ในเรือนจำไม่ได้รับอนุญาตให้ดูข่าวแต่ก็มีกิจกรรมวางกันเอาไว้บ้าง หลังจากนี้จะมีบทความทางเฟซบุ๊กให้ติดตาม
หลังจากนั้น เวลา 10.30 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้รับการปล่อยตัวออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังเข้ารับรักษาอาการป่วย โดยมีพันตรีหญิงศิริลักษณ์ ศรีเมือง ภรรยา พ.ต.แซมดิน เลิศบุษย์ พร้อมกลุ่ม พธม. มารอรับและให้กำลังใจ ซึ่งพล.ต.จำลอง กล่าวว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอปฎิเสธการให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวทางการเมือง