ราง...ฝันของใคร?

คนการเมืองลือกันลั่นว่า.. ใครบางคนจาก อีสานใต้ ที่ลั่นวาจาเลิกยุ่งงานการเมืองแล้วนั้น แต่ความจริงหลังม่าน ใครคนนั้นชี้ได้เลยว่า คนๆนี้ (ในสังกัด) จะไปทำงานอะไรบนถนนการเมือง

มองง่ายๆหากงานบุญและงานสังคมซึ่ง คนโตอีสานใต้ เป็นโต้โผ หากใครรู้ข่าวแล้วมิไปร่วมงาน และไร้เงาแบบปราศจากเหตุผลอันรับฟังได้นั้น ชะตากรรมน่าจะสั้นกว่าที่คาด?

ลือกันว่า....วันข้างหน้าใครบางคนจากอีสานใต้จะขยับไปดูงาน ”ระบบรางของประเทศ” ที่วันนี้ ลุงตู่ จะเชื่อมไทยทุกมุมให้สนิทด้วยระบบดังกล่าว “การรถไฟแห่งประเทศไทยและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" อยู่ในกำกับกรมการขนส่งทางราง ซึ่งเป็นกรมใหม่สุดที่จะดูแลระบบรางของเมืองไทยในสังกัดกระทรวงราชรถกรมรางนั้น...

ว่ากันว่าจะเชื่อมไทยให้ทั่วเพื่อลดงบด้านถนนที่นับวันจะทวีค่าใช้จ่ายแบบดับเบิ้ล “ระบบราง” จึงเป็นต้นทุนทางบกที่ถูกสุดในการลงทุนและทำให้ที่ดินแวดล้อมดับเบิ้ลราคาแบบหลายเท่าตัว

โปรเจคต่างๆ ที่จะสร้างความเจริญให้ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 จะตามงอกเรียงเคียงข้างไม้หมอนคอนกรีตแเละไม้หมอนเหล็กไปแปดทิศทั่วไทย

ดังนั้น ”ใครบางคนจากอีสานใต้” กำลังใช้ชั่วโมงบินประสานคนการเมือง ,ห้าเสือใหญ่วงการก่อสร้างเมืองไทยและนายทุนระบบรางบางชีวิตเพื่อส่ง ”ตัวเองหรือนอมินี” ไปคุมประธานบอร์ดระบบรางทั้งสองของประเทศ

ใครคนนั้นวาดหวังไว้ว่า หากขึ้นฝั่งด้วยระบบรางแล้วไซร์...การเชื่อมไทยไปทุกหัวระแหงจะง่ายและสะดวกแบบไม่เคยมีคนใดทำได้มาก่อน

ใครคนนั้นแม้มิได้ทำงานการเมืองในยามนี้ แต่การกุมสภาพที่บารมีเปล่งปลั่งกว่า นักการเมืองมืออาชีพ ถามว่า หากนักธุรกิจจะขอเจรจาต้าอ้วยด้วย นักธุรกิจจะคุยกับใครเป็นลำดับแรกๆระหว่างนักการเมืองมืออาชีพกับใครคนนั้น.....คงไม่ต้องชี้โพรงให้กระรอก

หากงานนี้มันบังเกิดจริง...ใครใหญ่กว่าใครก็จะได้รู้ระหว่างเสนาบดีกับเก้าอี้สองประธานบอร์ดระบบราง แต่มันจะคูณมูลค่าเพิ่มหลายเท่าหากเสนาบดีกับประธานบอร์ดระบบรางแนบชิดสนิทยิ่งกว่าทองแผ่นเดียวกัน?

และขอถามล่วงหน้าว่า หากลุงตู่จะเปิดทางให้ใครคนนั้นสมเจตนาดั่งที่หวังให้ ”ฝันกลายเป็นจริง” แบบมิทัดทาน ลุงตู่ จะตอบอย่างไร?