วัดกึ๋นเกมโลกล้อมไทย

โดย ธนาธร ควง "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ เดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมืองหลวงของสหภาพยุโรป พบปะกับนักการเมืองและข้าราชการของสหภาพยุโรป

เป้าหมายรองเพื่อติดตามและแลกเปลี่ยนกันถึงสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองโลกท่ามกลางภาวะสงครามการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ เป้าหมายหลักหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง

ยิ่งชื่อของ ธนาธร ถูกเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเลือก แข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคสช. จึงอยู่ในความสนใจของ อียู ทุกคำพูดของ ธนาธร จึงมีน้ำหนักให้สมาชิกอียูตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของอียูกับประเทศไทย

ร้อนจน พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปรียบเปรยนักการเมืองบางพรรคเดินสายไปพบปะกับนักการเมือง และเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป อย่าทำให้กระทบ การเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่าง ไทยกับอียู

ต้องยอมรับว่า ธนาธร ไปครั้งนี้หวังผลทางการเมืองอย่างแน่นอน ไม่ได้ไปเพื่อศึกษาดูงานอย่างที่กล่าวอ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ ไทยและอียู รวมถึงประเทศประชาธิปไตย เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะผลพวงจากการเลือกตั้ง แต่หาก ธนาธร เดินสายดิสเครดิต รัฐบาลประยุทธ์ อาจจะสั่นสะเทือนได้

หน่วยงานความมั่นคง จึงจับตาท่าทีของ ธนาธร อย่างไม่กะพริบตา ซึ่งการเดินสายเพื่อเข้าพบสมาชิกอียู ลำพังตัว ธนาธร คงยากที่จะมีคอนเน็คชั่นต่อสายตรงไปถึง ว่ากันว่ามือดีลสมาชิกอียูคือ วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร หรือที่รู้จักกันดีว่า “อาจารย์ต้น” ซึ่งมีสายสัมพันธ์ลึกกับนักธุรกิจต่างชาติ

นอกจากนี้อาจจะต้องสืบลึกไปที่ “ล็อบบี้ยิสต์” ที่มักจะรับงานติดต่อ “มือปืนรับจ้าง” ให้ออกมาปรากฏตัวการันตีความน่าเชื่อถือให้กับ “ลูกค้า” โดยใช้โมเดลเดียวกับที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เคยเลือกใช้บริการของล็อบบี้ยิสต์ชื่อดังมาหลายคน

รอจับตาดูเกมวัดกึ๋นระหว่าง รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กับ เครือข่ายธนาธร ว่าใครจะเข้าวินมากกว่า แต่ที่แน่ๆงานนี้ไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยอย่างแน่นอน