'เทวัญ' อัญเชิญพระนิรันตรายมาบูชาที่ห้องทำงาน
รมต.ประจำสำนักนายกฯ เข้าทำเนียบวันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อัญเชิญพระนิรันตรายมาบูชาที่ห้องทำงาน
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยผู้บริหาร และ ส.ส.พรรคชาติพัฒนา อาทิ นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรคฯ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ผู้อำนวยการพรรคฯ นางสาวเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรคฯ นายวชิรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา ได้เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก โดยได้สักการะศาลพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตายาย
จากนั้น นายเทวัญ ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นชมห้องทำงานชั้น 2 ตึกบัญชาการ 1 โดยบอกว่า ได้บูชาพระนิรันตราย วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหารปี 2515 จากที่ห้องทำงานที่บ้านมาบูชาที่ห้องทำงานแห่งนี้ เพราะเป็นพระประจำตัวมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยทุกปีในวันสงกรานต์ก็จะนำพระองค์นี้ออกมาสรงน้ำ ซึ่งมีพุทธคุณคือมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาสู่ตัว และแคล้วคลาดทุกอย่าง เดินทางปลอดภัย เมตตามหานิยม
นายเทวัญ ยังบอกว่า วันนี้ไม่ได้ถือฤกษ์เป็นพิเศษ ซึ่งถือฤกษ์สะดวกมากกว่า เพราะถือว่ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ และยังไม่ได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีเรื่องการแบ่งงาน เนื่องจากมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว จึงขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีว่าจะมอบหมายให้ทำอะไร แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าการทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรีจะไม่มีปัญหา
ส่วนนโยบายของพรรคที่จะถูกนำไปบรรจุในร่างนโยบายรัฐบาลเพื่อแถลงต่อรัฐสภา นายเทวัญ บอกว่า นโยบายของรัฐบาล เป็นนโยบายที่ดีที่ได้มีการรวบรวมนโยบายของแต่ละพรรคมารวมไว้ด้วยกัน ซึ่งในส่วนของพรรคชาติพัฒนา มีนโยบายเศรษฐกิจรากหญ้าการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมก็ถูกบรรจุไว้ในร่างนโยบายของรัฐบาลเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว โดยจะเป็นการท้าทายหรือไม่โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ในช่วงที่มีค่าครองชีพสูงขึ้น เชื่อว่า หลังจากมีการแถลงนโยบายไปแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลมีทั้งนโยบายเร่งด่วนและนโยบายปกติ โดยจะมีการดำเนินการไปตามขั้นตอนหากทำได้ตามที่วางไว้ทุกอย่างจะประสบความสำเร็จ ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ในร่างนโยบายรัฐบาลนั้น จะต้องมีการหารือกันภายในพรรคและพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
นายเทวัญ ยังปฏิเสธด้วยว่า ยังไม่มีการพิจารณาเสนอชื่อทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะต้องรอนายกรัฐมนตรีมอบหมายงานก่อนและในส่วนของพรรคยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคลใดมาทำหน้าที่ดังกล่าวด้วย