กสม.รอคอยกรรมการชั่วคราว

กสม.รอคอยกรรมการชั่วคราว

"ประธานกสม." เผยส่งจดหมายถึง "ปธ.ศาลฎีกา-ปธ.ศาลปกครองสูงสุด" กว่า 7 ฉบับ ขอให้แต่งตั้ง กสม.ชั่วคราว 1 คน ผ่านไป 45 วัน ยังเงียบ ลั่นหากองค์ประชุมครบสามารถลงมติที่ค้างภายใน 1 เดือนวัส ติงสมิตร

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.62 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายวัส ติงสมิตร ประธานกสม.ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการสรรหากสม. ชุดที่ 4 ที่ล่าช้าจะส่งผลกระทบให้การเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ. 2564 ล่าช้าไปด้วยว่า ตามปฏิทินการเสนอของบประมาณจะให้แต่ละหน่วยงานเสนอภายในเดือนม.ค. – ก.พ. 2563 อีกทั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยกสม.มาตรา 22 ได้บัญญัติทางออกในเรื่องนี้ โดยให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันพิจารณาแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวไม่น้อยกว่า 1 คน เพื่อให้ กสม.ชุดปัจจุบันสามารถประชุมและมีมติในกิจการต่าง ๆ รวมทั้งการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564ได้ตามกำหนดเวลา จนกว่าการสรรหาและแต่งตั้งตามปกติจะแล้วเสร็จ

นายวัส กล่าวอีกว่า เมื่อมีการแต่งตั้งกรรมการ กสม.ชั่วคราวตามกฎหมายในเร็ว ๆ นี้จะทำให้กสม.สามารถประชุมและลงมติได้ โดยเฉพาะการออกรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิฯกว่า 80 เรื่อง และพิจารณารับเรื่องร้องเรียนไว้เป็นคำร้องเพื่อตรวจสอบและมอบหมายให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดำเนินการคุ้มครองสิทธิของประชาชนกว่า 60 เรื่อง ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เป็นวาระที่สะสมมาตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมาเชื่อว่าจะสามารถพิจารณาเรื่องทั้ง 2 ส่วนได้ภายในเวลส 1 เดือน

"เรื่องการสรรหากสม.ชุดใหม่เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภา ผมไม่ขอก้าวล่วง ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.ที่นางอังคณา นีละไพจิตรและนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตกสม.ได้ยื่นหนังสือลาออกทำให้กรรมการ กสม.เหลืออยู่แค่ 3 คน ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม ผมจึงได้ยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้พิจารณาแต่งตั้งกสม.ชั่วคราว 1 คน เพื่อทำหน้าที่ให้ครบองค์ประชุม ซึ่งผมได้แจ้งให้ประธานทั้ง 2 ศาลร่วมกันแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวมากว่า 45 วันแล้ว และจนถึงขณะนี้ผมได้ส่งจดหมายไปทั้งหมด 7 ฉบับแล้วแต่ยังไม่มีหนังสือตอบกลับถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด" นายวัส กล่าว