'ธนาธร' ระทึก! กกต.นัดพิจารณาปมเงินกู้
"จรุงวิทย์" เผยสัปดาห์หน้า เสนอ กกต.พิจารณาปมเงินกู้อนาคตใหม่ “ธนาธร” ให้เงินพรรค เกิน 10 ล้าน ผิดไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
วันนี้ (20 ก.ย.)พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน191ล้านเพื่อ ดำเนินกิจการพรรค ว่า สัปดาห์หน้าสำนักงานกกต.จะส่งเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมกกต.เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีดังกล่าวช่วง หลังการเลือกตั้ง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ระบุว่า กฎหมายพรรคการเมือง ไม่เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองกู้เงินได้ โดยเมื่อตรวจสอบกฎหมายพรรคการเมืองพบว่า เรื่องเงิน รายได้ และการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2550 กับ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 2560 เขียนไว้ต่างกัน โดยปี 2550 มาตรา 53(7) ได้กำหนดให้มีรายได้อื่น พรรคจึงอาจมีรายได้จากการกู้ยืมเงินได้ โดยในอดีตที่ผ่านมาก็มีถึง20พรรคการเมืองกู้ยืมเงินโดยอาศัย บทบัญญัติมาตราดังกล่าว ในการหารายได้ และมีการระบุไว้ในรายงานงบดุลประจำปีของพรรคที่รายงานต่อกกต.
แต่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ปี 60 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน มาตรา 62 ไม่ได้มีบทบัญญัติเรื่องรายได้อื่นแล้ว และกำหนดประเภทของรายได้ ไว้ 7 ประการ การที่พรรคจะกู้ยืมเงินมาเป็นรายได้ไม่น่าจะทำได้ ซึ่งรายได้ 7 ประการของพรรคการเมือง ตามมาตรา 62 ประกอบด้วย 1. เงินทุนประเดิมตามมาตรา 9 วรรคสอง 2. เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองตามที่กำหนดในข้อบังคับ 3 เงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรค 4. เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค 5.เงินทรัพย์สินและประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการบริจาค 6. เงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 7 ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง