ชงเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น กกต.จ่อถกสถานะ‘นวัธ’

จากกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรตอบกลับหนังสือของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ต่อกรณีสมาชิกภาพของนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีตส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ที่ต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นของจังหวัดขอนแก่นให้ประหารชีวิต ข้อหาจ้างวานฆ่า

วานนี้(1ต.ค.) นายชวน  เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญกกต.สามารถวินจฉัยสถานะส.ส.ของนายนวัธโดยไม่ต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งนี้คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งในพื้นที่จ.ขอนแก่น เขต7 ภายใน 45 วันนับจากวันที่นายนวัธพ้นจากตำแหน่ง

ส่วนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ เบื้องต้นได้กำหนดไว้ 2 วัน คือวันที่ 17-18 ต.ค.แต่ถ้าไม่เวลามาพอก็สามารถขยายเวลาออกไปอีกเป็นวันที่ 19 ต.ค.ได้ ดังนั้นพยายามจะให้เวลาสมาชิกในการอภิปราย หลังจากนี้จะต้องมีการหารือกับประธานวิปรัฐบาล และประธานวิปฝ่ายค้านอีกครั้งถึงการกำหนดเวลาและการอภิปรายของสมาชิกต่อไป  สำหรับกรอบเวลาที่ฝ่ายค้านขอ 5 วันที่ผ่านมาการพิจารณาในวาระแรก ไม่เคยใช้เวลาถึง 5 วัน แต่ในวาระที่สองอาจใช้เวลาประมาณ 5 วันได้

วันเดียวกันสำนักประชาสัมพันธ์กกต. ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจง เรื่องความเป็นสมาชิกภาพของนายนวัธว่า เพื่อให้การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงได้มีหนังสือ ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมการในเบื้องต้นสำหรับการเลือกตั้ง แทนตำแหน่งที่ว่าง เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้กกต.ยังไม่ได้มีความเห็น ว่าสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของ นายนวัธ สิ้นสุดลงแต่อย่างใด เรื่องนี้ทางสำนักงานกกต. อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำความเห็น เพื่อนำเสนอที่ประชุมกกต.พิจารณาต่อไป

นายกฯรับลต.ซ่อมกระทบเสียง

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดเลือกตั้งซ่อมในหลายพื้นที่​ซึ่งมาการคาดการณ์ว่าอาจมีผลกระทบต่อเสียงส.ส.ฝ่ายรัฐบาล​นั้น​ ทุกคนก็รู้อยู่แล้วถ้าแพ้ก็มีผล หากไม่แพ้ก็ไม่มีผลก็เท่านั้น เป็นเรื่องของประชาชน อย่าเพิ่งคาดคะเนว่าใครจะแพ้หรือชนะ ส่วนการเลือกตั้งซ่อมที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ส่งผู้สมัครลงชิงกันเองนั้น เป็นสิทธิของแต่ละพรรคในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งตามกติกา ซึ่งใครจะได้หรือไม่ได้ก็เป็นเรื่องของประชาชน

ส่วนจุดยืนของรัฐบาลต่อแนวคิดการตั้งคณะกรรมาธิ​การ (กมธ.)​ วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นเรื่องนี้ยังไม่มีอะไร​เป็นเรื่องของขั้นตอน ​ ก็ขอให้แก้ในมาตรา​ 265​ ที่เป็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ ส่วนที่ฝ่ายค้านต้องการให้นายกฯถือธงนำในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ ​ ตนไม่มีธง​ ธงของตนคือจะทำอะไรก็ตามต้องเป็นไปตามกฎหมาย​ ตามขั้นตอนและรัฐธรรมนูญ​ 

สำหรับกรณีมีกลุ่มต่อต้านชูป้ายประท้วงระหว่างเยือนสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ  ตนไปทำในสิ่งที่ดี ต่างชาติก็ตอบรับ ผู้นำประเทศก็ตอบรับ ส่วนที่มีเอกสารหลุดว่าหัวหน้าพรรคการเมืองไทยพรรคหนึ่งจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์นั้น เป็นเรื่องของกฎหมายก็ไปว่ากันมา

 

“นิพนธ์”ติงแก้รธน.ต้องชัดเจน

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเดินสายของฝ่ายค้านในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคไม่ขัดข้องในเรื่องของการแก้ไขและธรรมนูญ เพราะรัฐบาลเองก็มีนโยบายอยู่แล้วส่วนการเดินสายของฝ่ายค้านในขณะนี้ต้องพูดให้ชัดว่าแก้ไขประเด็นไหน ต้องเห็นพ้องกันถึงจะแก้ได้ เช่นเดียวกับกรณีที่ฝ่ายค้านจะนำธงมาให้นายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยต้องดูเจตนาของฝ่ายค้านด้วย ว่าเขาหวังที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือหวังที่จะใช้เงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นประเด็นการเมือง อย่างไรก็ดีส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่มีนัยซ่อนเร้นอะไรก็สามารถก็สามารถนำมาพูดคุยกันในสภาได้อยู่แล้ว แต่การที่จะไปเคลื่อนไหวอะไรกันข้างนอกในทางการเมืองมีสิทธิ์ทำแต่เจตนามันคืออะไร

“สมศักดิ์”ปัดตอบหนุนปชป.-ชทพ.

ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)และพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 ว่า พรรคร่วมรัฐบาลคงไม่ได้ประสานงานและคุยกันเป็นกิจจะลักษณะ เพราะมีอยู่หลายพรรค จึงทำให้มีพรรคร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัครส.ส. 2 คน ส่วนพปชร.จะสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคใดนั้น คงไม่ได้สนับสนุนอะไรที่เป็นทางการ ใครชอบใครก็เลือกกันไป ส่วนการพูดคุยกับพรรคร่วมคงต้องพูดคุยกันหลังจากนี้

เช่นเดียวกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชทพ. กล่าวว่าในส่วนของตนยังรู้สึกดีกับทางประชาธิปัตย์ แต่ที่ผ่านมาทางปชป.ยังไม่ได้มีการมาพูดคุยเป็นกิจจะลักษณะ จึงมองว่าผู้ใหญ่ของปชป.ควรจะมานั้งคุยกับ ชทพ. และเมื่อถึงจุดหนึ่งตนคิดว่าการลงสมัครเลือกตั้งซ่อมมีคำเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่  เนื่องจากคนในตระกูลสะสมทรัพย์ การจะเอาผลการเลือกตั้งเพียงแค่ครั้งเดียวมาชี้วัดถึงความผิดพลาดคงโหดร้ายเกินไปส่วนที่มีการมองว่าชทพ.ส่งผู้สมัครแข่งถือว่าเป็นการเสียมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาล เป็นความคิดเห็นของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ทางปชป.มีความเห็นอย่างไรก็เป็นสิทธิที่แสดงความเห็นได้

“สาธิต”มั่นใจปชป.กวาดที่นั่งส.ส.

นายยสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง กล่าวว่ากรณีพรรคและพรรคชทพ.ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 5 ซึ่งถูกมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลแย่งคะแนนกันเองเวลาลงสนามเลือกตั้งแล้ว ทุกคนก็ต้องเต็มที่ และมีความมั่นใจ โดยขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะตัดสินอย่างไรในวันลงคะแนน เรื่องนี้ที่จริงถ้าตกลงกันได้ก็ดี แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงตรงนี้ ก็ต้องต่างคนต่างทำหน้าที่รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ชนะใจประชาชน  ทั้งนี้การที่นายเผดิมชัย ประกาศว่าเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม เรามั่นใจว่าผู้สมัครพรรคต้องชนะ เพราะพื้นที่อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นฐานของพรรคเดิมซึ่งจะเห็นได้จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา