ศาลฎีกาวินิจฉัย! ให้รอลงอาญา 'สุรพงษ์' ผิดออกพาสปอร์ต 'ทักษิณ'
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ศาลฎีกา ให้รอลงอาญา "สุรพงษ์" อดีตรมว.ตปท. ผิดออกพาสปอร์ต "ทักษิณ" เผยจำเลยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองลามช่องท้อง-คอ
การวินิจฉัยอุทธรณ์คดีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ยิ่งลักษณ์ ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ออกพาสปอร์ตให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งวันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีการอ่านคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ในคดีนี้
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาแก้ศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเวลา 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และปรับอีก 1 แสนบาท เนื่องจากเห็นว่า จำเลยหรือนายสุรพงษ์ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน และกำลังอยู่ระหว่างการรักษา โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ลามมาที่ช่องท้อง คอ จึงต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถูกพิพากษาให้จำคุก 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้ปรับเป็นเงิน 1 แสนบาท ในชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ศาลฏีกา เห็นว่า จำเลย มีพฤติกรรมและความประพฤติดี ประกอบกับไม่เคยต้องโทษมาก่อน และมีอาการเจ็บป่วยหลายโรค เช่น โรคมะเร็ง ที่คอและช่องท้อง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงเห็นควรให้โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ ตามที่จำเลยร้องขอ แต่ให้ปรับเพิ่มเป็นเงิน 1 แสนบาท
คดีนี้ องค์คณะผู้พิพากษา เห็นว่า คำอุทธรณ์ของจำเลยทั้ง 6 ประเด็น ฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะประเด็นคุณสมบัติของกรรมการ ปปช.บางคน และในขอบเขตอำนาจ หน้าที่ การไต่สวนคดีของ ปปช. นอกจากนี้ ยังรวมถึงอุทธรณ์ในประเด็นที่ว่า จำเลยไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐและไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานออกหนังสือเดินทางโดยตรง แต่ศาลเห็นว่า จำเลย เป็นถึงรัฐมนตรี เป็นผู้บริหารสูงสุดของกระทรวง ซึ่งสามารถให้คุณและโทษได้และมีส่วนรู้เห็นในการออกหนังสือเดินทาง ประเด็นเหล่านี้จึงฟังไม่ขึ้น
สำหรับคดีนี้ อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรพงษ์ เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ต่อนายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2),(3) และ (4)
และเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2561 ศาลฯ มีคำพิพากษาว่า จำเลยในฐานะรัฐมนตรีฯ กระทำการสนับสนุนช่วยเหลือนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และหลบหนีหมายจับในคดีข้อหาความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ที่ให้นายทักษิณ สามารถเดินทางในต่างประเทศได้โดยสะดวก อยู่ในต่างประเทศโดยไม่ผิดกฎหมาย และรัฐบาลไทยไม่อาจขอให้รัฐบาลประเทศนั้นขับออกจากประเทศหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเนื่องจากเหตุที่ไม่มีหนังสือเดินทางได้ ส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมและคำพิพากษาของศาลยุติธรรมไทยอ่อนแอและไม่มีสภาพบังคับตามลำดับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ลุ้นติดคุกหรือรอด! 'อดีตรมต.สุรพงษ์' คดีออกพาสปอร์ต
-รอดนอนคุก! ศาลให้ประกัน 'สุรพงษ์' 5 ล้าน ห้ามออก
-สั่งจำคุก2ปีไม่รอลงอาญา 'สุรพงษ์' คืนพาสปอร์ต 'ทักษิณ'
-'ปึ้ง สุรพงษ์' ได้ประกันหลังยื่น3ล้าน คดีพาสปอร์ตทักษิณ