“บิ๊กตู่” ส่งสัญญาณ เลิกใช้สารพิษเกษตร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงจุดยืนเรื่องการแบน 3 สารเคมีทางการเกษตร คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต ว่า เรื่องสารเคมีนี้ ตนได้เคยแสดงจุดยืนไปตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ให้มีการลด ละ เลิก สารเคมีดังกล่าว โดยมีระยะเวลาและขั้นตอนในการดำเนินการตั้งแต่ปี 60 เป็นต้นมา

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้อยู่ในขั้นตอนตรงนี้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ที่พิจารณาดำเนินการ และเป็นเรื่องของคณะกรรมการวัตถุอันตราย "กำลังดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอน" ซึ่งจะต้องลงมติมาในวันที่ 22 ต.ค. นี้ โดยต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการดำเนินการเพื่อให้สามารถดำเนินการได้

นับเป็นการแสดงจุดยืนต่อการแบนสารพิษเกษตรทั้งสามตัวนี้ของนายกรัฐมนตรี หลังจากมีการถกเถียงจากทั้งฝ่ายต่อต้านการแบนสารพิษและฝ่ายสนับสนุนการแบนสารพิษ ซึ่งในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการประชุม 4 ฝ่าย ได้แก่ ส่วนรัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร และผู้บริโภค ที่กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เป็นประธานในที่ประชุม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกการใช้คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต โดยให้เปลี่ยนจากสารวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นสารวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และให้ยกเลิกใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป เนื่องจากมีข้อมูลในเชิงประจักษ์ว่าสารทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

สำหรับผลสรุปจากการพิจารณาความคิดเห็นของทั้ง 4 ฝ่าย จะถูกรวบรวมนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อทราบ รวมทั้งเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 22 ตุลาคม ซึ่งรัฐมนตรีช่วยฯ มนัญญา ได้เปิดเผยว่า เธอได้ทำหนังสือนำเรียนทางรัฐมนตรีไปแล้วก่อนหน้านี้ ก่อนที่นายกฯ จะส่งสัญญาณออกมาในวันนี้

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้เช่นกันว่า ตนได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงฯ และหน่วยงานในสังกัด เร่งขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเร่งด่วนเพื่อรองรับการแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชและแมลง 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ที่ถูกเรียกร้องจากภาคประชาสังคมมากว่า 2 ปี

โดย รมว. เฉลิมชัยกล่าวว่า ตนได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งส่งเสริมการใช้สารชีวภาพทดแทนสารพิษเกษตรดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้สั่งการให้ทางกระทรวงฯ รวบรวมมาให้ได้มากที่สุด โดยให้ศูนย์วิจัยข้าวพืชไร่พืชสวนใช้ทดสอบในแปลงทดลองทุกภาคทั่วประเทศ