‘วิรัช’ รับรธน.ช่องโหว่เพียบ เตือนมาตราไหนไม่ควรแก้ไม่ต้องแตะ
"วิรัช" คาดตั้ง "กมธ.แก้รธน." ไม่ทันสัปดาห์นี้ เหตุติดกระทู้-รายงานผลปฏิรูป-อภิปรายตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบ "คำสั่งคสช." รับธน. ช่องโหว่เยอะ มาตราไหนควรแก้มาถกกัน เตือนมาตราไหนไม่ควรแก้ ไม่ต้องแตะ
เมื่อวันที่ 4พ.ย.62 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6-7 พ.ย.ว่า ตามวาระการประชุมสภา มีญัตติด่วน 2 เรื่องที่หลายคนจับตามอง คือ 1.เรื่องให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตาม มาตรา44 และ2. ญัตติ เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 โดยเฉพาะการตั้งกมธ.เพื่อศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้สังคมกำลังจับตามองและเป็นที่พูดถึงมาก ตนคิดว่า บางมาตราของรัฐธรรมนูญยังมีช่องโหว่เยอะ แต่เป็นเรื่องรายละเอียดปีกย่อย แต่ในภาพใหญ่มีผลกระทบใดหรือไม่ ต้องศึกษาให้ถี่ถ้วน การตั้งกมธ.ชุดนี้ไม่ใช่ตั้งเพื่อแก้รัฐธรรมญ แต่ตั้งมาเพื่อศึกษาและหาวิธีการแก้ไข หากศึกษาแล้วมาตราไหนควรแก้ไขก็มาอภิปรายกันในสภาถึงเหตุผลและวิธีการ แต่มาตราไหนไม่ควรแก้ต้องไม่ไปแตะ
นายวิรัช กล่าวอีกว่า ในส่วนของญัตติด่วนทั้งสองเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการตั้งกมธ.ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนคิดว่าอาจจะไม่ทันในสัปดาห์นี้ เพราะว่า ในวันที่ 6 พ.ย.มีวาระหลายเรื่องที่อาจจะใช้เวลานาน อาทิ วาระหารือทั่วไปของสมาชิก กระทู้ถามสดและกระทู้ถามทั่วไป การรับทราบรายงานประจำปีของหน่วยงานต่างๆ และการรับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ที่ต้องรายงานแก่สภาทุก 3 เดือน ตรงนี้อาจจะกินเวลานาน เพราะน่าจะต้องมีการอภิปรายของสมาชิกด้วย และญัตติการตั้งกมธ. ศึกษาผลกระทบคำสั่งคสช. ต้องใช้เวลานานเช่นกันในการอภิปรายถกเถียง แต่ทั้งนี้ตนยืนยันว่า การประชุมจะเป็นไปตามระเบียบวาระตามปกติ ไม่มีการยื้อเวลาหรือถ่วงเวลาอย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเสนอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ จะมาเป็นประธานกมธ.ศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญ นายวิรัช กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด นายอภิสิทธิ์ยังไม่เห็นพูดอะไรเลย รอให้มีการตั้งกมธ.ให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เพราะวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าแต่ละพรรคใครจะมาบ้าง และเมื่อมาแล้วต้องมาคุยกันก่อนว่าใครจะเป็นประธาน และระเบียบวาระประชุมสภายังอีกยาวกว่าวาระศึกษาแก้ไขธรรมนูญ
เมื่อถามว่า จำเป็นที่แต่ละพรรคต้องมาคุยกันก่อนที่จะเลือกใครมาเป็นประธานหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ต้องมาตกลงกันด้วย เพราะเมื่อได้กรรมาธิการแล้ว อีกประมาณ 1 สัปดาห์ถึงจะสรุปใครจะมาเป็นประธาน ยังทัน ให้แต่ละพรรคเลือกตัวแทนก่อน สำหรับการประชุมพรรคในวันที่ 5 พ.ย.พรรคพลังประชารัฐจะประชุมส.ส.ของพรรคในช่วงบ่าย เพื่อหารือถึงระเบียบวาระการประชุมสภา และเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งกมธ.ทั้ง 2 คณะด้วย
ทั้งนี้ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นเรื่องที่ให้ส.ส.ของพรรคพิจารณาใครมีมุมมองประเด็นไหนอย่างไร ให้เขาเตรียมการ เพราะแต่ละคนมุมมองไม่เหมือนกันแน่ ต้องมาหารือและทำกรอบว่าจะทำอย่างไร และอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติ หากประชาชนให้แก้และถ้าไม่ให้แก้จะทำกันอย่างไร