'กมธ.ปราบโกง' ป่วนไม่เลิก 'สิระ' ไม่ยอมรับ 'วัฒนา' นั่งที่ปรึกษาปธ.
"วัฒนา" ท้าไปฟ้องผิดจริยธรรมได้ ด้าน "สิระ" กัดไม่เลิก จ่อยื่อป.ป.ช. ฟ้อง "เสรีพิศุทธ์" ใช้อำนาจมิชอบ ปธ.กมธ.แนะสังคมจับตาส.ส.พปชร.มาทำงานหรือตั้งใจมาป่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานกมธ.ฯ ว่าในวาระประธานแจ้งให้ทราบต่อประเด็นการตั้งที่ปรึกษาประธานกมธ.ฯ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามอำนาจของประธาน กมธ. ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่าตนได้ลงนามคำสั่งดังกล่าว ส่วนขั้นตอนที่มองว่าลงนามเร็วนั้น เพื่อต้องการให้บุคคลที่ตั้งเป็นที่ปรึกษาของตนนั้นทำงานได้ทันที ส่วนที่ต้องให้ที่ประชุมรับทราบนั้นเพื่อให้เกียรติกมธ.ฯ โดยที่ปรึกษาของตนนั้นเป็นโควต้าที่ส่งมาจากพรรคการเมืองที่เป็นกมธ.ฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวาระดังกล่าวมีกมธ.ฯ ท้วงติงถึงความไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการตั้งนายวัฒนา เมืองสุข อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษาประธานฯ โดยนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานกมธ.ฯ โต้แย้งในความไม่เหมาะสมเพราะนายวัฒนา เป็นบุคคลที่ต้องคดีทุจริต อาทิ บ้านเอื้ออาทร เป็นต้น
ทั้งนี้น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.ฯ ชี้แจงว่าชื่อของนายวัฒนา เป็นไปตามการเสนอชื่อของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามข้อโต้แย้งดังกล่าวได้ยุติเมื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าการตั้งที่ปรึกษาประธานกมธ.ฯ เป็นสิทธิและอำนาจของตน
ภายหลังเรื่องแจ้งทราบนายสิระ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบริเวณหน้าห้องประชุม กมธ.ฯ โดยยอมรับว่าได้ท้วงติงถึงความไม่เหมาะสมของนายวัฒนา เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความไม่เหมาะสม เพราะมีคดีความทุจริต ทั้งนี้ข้อท้วงติงของตนไม่มีผล และทำให้การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามที่ประธานกมธ.ฯ แจ้ง
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าสิ่งที่ตนท้วงติงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงเพราะอาจต้องการได้ประสบการณ์จากคนที่มีคดีทุจริตร่วมจับผิดกลโกง อย่างไรก็ตามจากประเด็นดังกล่าว เรื่องการออกคำสั่งแต่งตั้งล่วงหน้าและอ้างว่าเป็นมติของที่ประชุมตนถือว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และเมื่อพิจารณาต่อการออกหนังสือเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มาชี้แจงกับกมธ.ฯ โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดให้กมธ.ฯ ทราบก่อนลงมตินั้น เป็นการใช้อำนาจที่มิชอบ ซึ่งตนเตรียมปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เพื่อยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ต่อไป
นายสิระยังกล่าวถึงข้อเสนอให้ปลดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ด้วยว่าตนได้ยื่นเรื่องให้บรรจุในวาระประชุม คาดว่าจะรับการพิจารณาในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้การเปลี่ยนตัวประธานกมธ. สามารถทำได้ตามข้อบังคับ ส่วนที่ระบุว่าเป็นโควต้าของพรรคฝ่ายค้านนั้นขอให้ยึดตามโควต้าดังกล่าว
ขณะที่นายวัฒนาให้สัมภาษณ์ ยอมรับถึงกรณีที่นายสิระท้วงติงต่อคุณสมบัติและความไม่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกมธ.ฯ และหากพบว่าผิดตามประมวลจริยธรรมสามารถยื่นเรื่องได้ตามช่องทางและหากไม่ทราบตนพร้อมชี้ทางให้ อย่างไรก็ตามการรับตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกมธ.ฯ ของตนไม่มีค่าตอบแทนและไม่สามารถลงมติใดๆ ได้ ดังนั้นจึงไม่มีอำนาจที่จะก้าวก่าย หรือ แทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ยุติธรรมที่ดำเนินคดีกับตน อย่างไรก็ตามการตั้งแง่ของกมธ.ฯ ดังกล่าวตนเชื่อว่าจะไม่กระทบการทำงานเพราะตนทำงาานเป็นที่ปรึกษาประธานกมธ. และทำงานตามที่มอบหมาย
ทั้งนี้ตนขอให้กมธ. ร่วมมือกันทำงานเพื่อตรวจสอบ ไม่ใช่ทำหน้าที่เพื่อขวางการตรวจสอบ “ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนทำงานให้ฟรี และเป็นประโยชน์กับประชาชน อย่างกรณีการตรวจสอบผู้นำชุดปัจจุบันที่ก่อนหน้านั้น 5 ปี ไม่เคยมีคนตรวจสอบ ดังนั้นเชื่อว่าประชาชนอยากรู้ถึงประเด็นที่ควรตรวจสอบ เช่น กรณีเหมืองทองอัครา เป็นต้น”
ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ระหว่างเดินเข้าห้องสุขา ต่อกรณีที่นายสิระจะยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. ว่า ตนไม่สนใจ และไม่ต้องทำความเข้าใจในการทำงาน ซึ่งขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนติดตามการทำงานของนายสิระว่าต้องการเข้ามาทำหน้าที่ในกมธ.ฯ หรือต้องการมาป่วนการประชุม.