'ปิยบุตร' ลั่นฟัน 'ส.ส.อนาคตใหม่' โหวตสวนพรรค โยนบาป 'รธน.' เป็นอุปสรรค
เลขาธิการอนาคตใหม่ ลั่นฟัน "กลุ่มส.ส." โหวตสวนพรรค โยนบาป "รธน." เป็นอุปสรรคขับไล่พ้นพรรค
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ ต้องส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้กับ กกต. ภายในวันที่ 2 ธ.ค. 2562 และพรรคไม่สามารถส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าว ได้ทันตามกำหนด กกต. จึงมีมติตัดพยานหลักฐานที่เหลือ และจะพิจารณาเอกสารที่พรรคได้ส่งไปเพียงบางส่วนเท่านั้น
เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงว่า คดีเงินกู้เริ่มต้นเมื่อ 8 ก.ค. ที่ทาง กกต. ได้มีหนังสือเชิญบุคคลในพรรคไปชี้แจง นำโดยนายธนาธร จนท้ายที่สุดทางพรรคตัดสินใจฟ้อง กกต. ทั้ง 5 คน เป็นคดีอาญาไว้ที่แผนกคดีทุจริต หลังจากนั้นทาง กกต. ได้มีการปล่อยเอกสารการแถลงข่าว เพื่อทวงเอกสารจากพรรคอนาคตใหม่ จึงอยากตั้งขอสงสัยว่า การทวงหรือการเรียกเอกสาร เหตุใดต้องทวงผ่านเอกสารแถลงข่าว ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานั้นการทวงเอกสารต้องมีหนังสือเรียกและลงนามอย่างเป็นทางการ
อ่านข่าว-กกต. มีมติตัดหลักฐาน ธนาธร ปล่อยเงินกู้ หลังพรรคยัง
ต่อมา 19 พ.ย. ทาง กกต. ได้ออกหมายเรียกมายังพรรค เพื่อให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม พรรคจึงได้ส่งเอกสารกลับไปครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยทาง กกต. ได้ขอเอกสารเพิ่มเติม ได้แก่ บัญชีรายวันและแสดงรายได้หรือรายรับ และแสดงค่าใช้จ่ายหรือรายจ่าย บัญชีแสดงรายรับจากการบริจาค บัญชีแยกประเภท บัญชีแสดงสินทรัพย์และหนี้สิน ของพรรคตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 - 30 ก.ย. 2562 รวม 9 เดือน โดยขีดเส้นตายให้ทางพรรคส่งภายใน 2 ธ.ค.62 โดยมีเวลาในการจัดเตรียมเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น กกต. ได้ออกหมายเรียกพยานเอกสารจำนวนหลายรายการ ทั้งที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ
พรรคจึงได้ส่งเอกสารบางส่วนไปให้กับทาง กกต. เช่น สัญญากู้ยืมเงิน หลักฐานการชำระหนี้เงินกู้ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในการยืนยันว่ามีการกู้เงินและคืนเงินแก่ผู้ให้กู้ จึงมองว่าหากจะให้ส่งเอกสารทั้งหมด 9 เดือน 4 รายการ จะมีเอกสารประมาณ 90 แฟ้ม มีความหนา 3 นิ้ว โดยมีเวลาเพียงสองสัปดาห์ จึงมีความเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งให้ทัน ทางพรรคตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคมวลชนมีการขายสินค้าเพื่อหารายได้ มีการรับบริจาค ไม่ใช่พรรคที่มีนายทุนจึงมีเอกสารต่างๆ ในแต่ละสาขาพรรคจำนวนมากมาย เมื่อขอเวลารวบรวมเอกสารกับทาง กกต. แต่ก็ได้รับการปฎิเสธ จึงตั้งขอสงสัยว่า กกต. จะขอเอกสารเหล่านี้ไปเพราะเหตุใด เพราะความจริงมีเพียงว่าการกู้เงินทำได้หรือไม่
ขณะเดียวกัน การใช้วิธีการพูดกันผ่านสื่อ โดยให้สื่อบางสำนักไปขยายผลต่อ ใช้กระบวนการทำคดีต่างๆ ให้สื่อลงข่าวทุกวันชี้นำ เช่น มีการออกเอกสารทวงเอกสารกับพรรค ต่อมาก็มีการปั่นกระแสสื่อเพื่อชี้นำ และปล่อยข่าวว่าทำไมถึงไม่ส่ง โดยพรรคได้ส่งไปแล้วแต่บางส่วนยังไม่ได้ส่ง เพราะกลวิธีของการทำคดีที่พัวพันกับการเมืองให้ไปอยู่ในมือสื่อ และใช้เทคนิคการสื่อสารชี้นำโดยให้สื่อปั่นกระแสไปเรื่อยๆ
ตนยืนยันว่าพร้อมส่งหากมีเวลาขยายขอบเขตการจัดเตรียมเอกสาร แต่หากทางพรรคเห็นว่ากระบวนการในชั้นสืบสวนสอบสวนและการมีมติของ กกต. ทำไปโดยไม่สุจริต กลั่นแกล้ง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ทางพรรคจะขอฟ้องดำเนินคดีทางแพ่ง และอาญา ต่อไป จึงอยากให้ กกต. ปรับวิธีคิดในการทำงานกับพรรคการเมืองเพราะทุกพรรคมีกระบวนการที่มา ซึ่งรายได้ของพรรคแตกต่างกัน ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาและทางพรรคพร้อมที่จะสู้คดีต่อไป
ส่วนเรื่องที่ทาง กกต. เตรียมฟ้องดำเนินคดีมาตรา 151 กับหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพรรคมีการฟ้องกลับนั้น นายปิยะบุตร บอกว่า ที่ทางพรรคมีการฟ้องกลับเนื่องจากเห็นว่า ทาง กกต. มีการเร่งรัดคดีของนายธนาธร อย่างผิดปกติในขณะที่ยังอยู่ในชั้นสืบสวนไม่เสร็จ มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ มีพิรุธ ผิดสังเกตในกระบวนการเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ทางพรรคจึงฟ้อง กกต. ต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริต จึงไปว่ากันในศาลว่าจะรับฟ้องดำเนินคดีหรือไม่
ทั้งนี้ในส่วนกรณีกระแส ส.ส. งูเห่า ที่เป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมากนั้น นายปิยะบุตร บอกว่า รัฐธรรมนูญ มีการรับรองเอกสิทธิ์การลงมติของ ส.ส. ในขณะเดียวกัน ส.ส. ถูกบังคับให้สังกัดพรรค หากพรรคขับไล่ ส.ส. ออกจากพรรคก็ยังสามารถหาพรรคใหม่ได้ รัฐธรรมนูญจึงเป็นอุปสรรคต่อพรรคการเมืองที่จะขับไล่ ส.ส. ที่โหวตสวนมติ ออกจากพรรคได้ยาก
หลายครั้งมีการเรียกมาชี้แจงกรณีโหวตสวนมติ ทั้งที่มติพรรคมีการดำเนินการไปตามนโยบายที่พรรคใช้รณรงค์หาเสียง ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรคจึงควรพิจารณาตัวเอง ว่าคุณได้รับการเลือกตั้งด้วยตัวเองหรือเพราะพรรคที่ลงไปรณรงค์หาเสียงที่ผ่านมา หากมีการโหวตสวนมติพรรค ที่ได้ให้นโยบายไว้กับประชาชน ครั้งต่อไปจะไม่มีการส่งลงเลือกตั้ง แต่จะมีการขับออกจากพรรคหรือไม่นั้น ต้องรอพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารพรรคอีกครั้ง