'หมอระวี' เชื่อครม.เคาะต่อ 'สัมปทานทางด่วน' 15ปี 24ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.62 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัวระบุถึงเรื่องค่าโง่ทางด่วนว่า ใกล้จะจบแล้ว เรื่องค่าโง่ทางด่วน ที่ตนได้เสนอเป็นญัตติด่วน เข้าสู่สภาฯ เพื่อตั้งกรรมาธิการศึกษาหาทางแก้ไข ในครั้งนั้นได้ผ่านอุปสรรคมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขอให้ถอนญัตติออก เมื่อตนยืนยันว่าไม่ถอน ก็มาเจอด่าน ถ้าไม่ถอนญัตติออกจะโหวตไม่ให้มีการตั้งกรรมาธิการ เมื่อตนล็อบบี้ ส.ส.ส่วนข้างมากให้เห็นด้วยกับการตั้งกรรมาธิการ ก็มาเจอด่านจะให้ตั้งกรรมาธิการก็ได้ แต่ตนต้องไม่เป็นประธานกรรมาธิการ เมื่อตนยอมที่จะไม่เป็นประธานกรรมาธิการ จึงสามารถตั้งกรรมาธิการได้ เมื่อกรรมาธิการเริ่มศึกษาก็เจอการสกัดทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผยแต่ในที่สุดก็สามารถจบลงได้ โดยเสียงโหวตในกรรมาธิการเสียงแตก ความเห็นมีทั้งให้สู้สุดๆ แบบกลางๆ และแบบเห็นด้วยกับการต่อสัมปทานทางด่วน 30 ปี แล้วแต่จุดยืนของแต่ละคน จนมีการอภิปรายว่า กรรมาธิการบางคน ถูกเคลียร์กลางสภา จบด้วยการทะเลาะของ 2 ส.ส.

นพ.ระวี กล่าวว่า หลังจากญัตตินี้ผ่านสภา ตนทราบว่า คณะทำงานของกระทรวงคมนาคมที่ปลัดกระทรวงเป็นประธาน ได้ศึกษาจนได้ข้อสรุปแล้ว จะนำเสนอ รมว.คมนาคม ในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ และคาดว่าวันอังคารที่ 24 ธ.ค.คงจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยทางออก ในเรื่องค่าโง่ทางด่วนนี้คาดว่าจะมี 3 ทางคือ

1. ยุติการต่อสัมปทานทางด่วนให้เอกชน พร้อมการสู้คดีในศาลทุกคดี 2. ต่อสัมปทาน 15 ปีแรกกับการยุติคดี ส่วนเรื่องการสร้าง Double deck กทพ.ค่อยพิจารณาใหม่ และ 3. ต่อสัมปทาน 30 ปีตามที่บอร์ด กทพ. และเอกชนเสนอ

"แนวทางที่ดีที่สุดตามความเห็นผมคือแนวทางที่ 1 ที่อัยการหลายคน ยืนยันว่าน่าจะสู้คดีได้และต้องการสู้คดีให้ถึงที่สุดและแนวทางที่พอรับได้คือแนวทางที่ 2 ที่ ต่ออายุสัมปทานให้เอกชน 15 ปี แต่แนวทางนี้จะพอรับได้ต้องมีเงื่อนไขตามมาอย่างน้อย 4 ข้อด้วยคือ 1. รัฐมนตรีต้องดูประเด็นทางกฎหมายด้วยว่าสามารถทำได้หรือไม่ ควรให้กฤษฎีกาช่วยดูให้รอบคอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี 2. เอกชนต้องยอมยุติคดีทั้งหมด 3. ประเด็นการขึ้นค่าทางด่วน 10 บาททุก 10 ปีควรจะลดเหลือ 5 บาททุก 10 ปี และ 4. ให้กทพ. เร่งศึกษาเรื่องการลดการติดขัดการจราจรบนทางด่วนโดยเร็วเช่นการสร้าง Double deck , การขยายเลนทางด่วนบางจุด, การลดด่านเก็บเงิน ,การใช้ easy pass มากขึ้นฯลฯ และแนวทางที่ไม่ควรทำคือการต่อสัมปทาน 30 ปีตามที่ บอร์ด กทพ.และเอกชนเสนอตั้งแต่ต้น

ผมเชื่อมั่นในจุดยืนของรมว.คมนาคม ที่เคยยืนยันกับผมตอนที่ผมเสนอญัตตินี้เข้าสภาก่อนที่จะเป็นรมว. คมนาคมว่าเห็นด้วยกับผมในการออกมาต่อสู้เรื่องค่าโง่ทางด่วนว่า น่าจะไม่เลือกแนวทางที่3แน่นอน" นพ.ระวี กล่าว

นพ.ระวี กล่าวว่า ตาคาดว่า มติ ครม. น่าจะเลือกแนวทางต่ออายุ 15 ปี แม้ว่าจะไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นแนวทางที่พอรับได้ อย่างน้อยตนได้ทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาในการลดค่าโง่ไม่ได้ทั้งหมด แต่ได้ส่วนหนึ่งก็ยังดี อย่างไรก็ตามถ้า รมว.คมนาคม เลือกแนวทางต่ออายุ 15 ปี ต้องพิจารณารายละเอียดประกอบ 4 ข้อที่ตนเสนอ โดยเฉพาะประเด็นทางกฎหมายว่า สามารถทำตามแนวทางนี้ได้หรือไม่ ถ้ามีการร้องต่อศาลปกครอง จะได้ไม่ตกม้าตาย