ยธ.-สธ.จับมือปลด 'กระท่อม' พ้นยาเสพติด 27 ธ.ค.นี้
27 ธ.ค.นี้ "ยธ.-สธ." นัดเซ็นเอ็มโอยูร่วมศึกษาปลด "กระท่อม" พ้นบัญชียาเสพติด เร่งศึกษาแนวทางประเทศเพื่อนบ้านใช้ประโยชน์จากกระท่อมภายใต้การควบคุม
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.62 แหล่งข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการศึกษาความเหมาะสมในการกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ ที่มีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน โดยการประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมได้รับทราบรายงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้พืชกระท่อม ในแต่ละประเทศว่าดำเนินการอย่างไร เช่น มาเลเซีย กำหนดให้สารสารไมตราจัยนิน เป็นสารพิษ ที่จะต้องมีการควบคุม ส่วนต้นกระท่อมที่ปลูกทั่วไปไม่ใช่พืชเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่หากพบเห็นการเตรียมจำหน่าย หรือริดใบ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า พร้อมจำหน่าย กระท่อมจะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายทันที
ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ธ.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วย ความร่วมมือในการศึกษาวิเคราะห์แนวทางและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการถอดพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ ทั้งนี้หากผลการวิจัยเห็นพ้องถึงความเหมาะสมกันปลดพืขกระท่อมพ้นจากบัญชียาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 จะต้องเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 โดยจะต้องตัดคำว่า "พืชเสพติดกระท่อม" ที่อยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้ประเภท 5 ออก จากนั้นก็ยกเลิกในมาตราที่เกี่ยวข้องกับกระท่อม คาดว่าจะใช้เวลาในการแก้ไขกฎหมายไม่นาน
แหล่งข่าวจากป.ป.ส.ยังระบุว่า ในส่วนของผู้กระทำความผิดยาเสพติดเกี่ยวกับคดีพืชกระท่อม กระทรวงยุติธรรมได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์เร่งสำรวจว่าจำนวนนักโทษที่ต้องโทษคุมขังในคดีดังกล่าว หากปลดพืชกระท่อม ออกจากบัญชีกฎหมายยาเสพติด กลุ่มนักโทษเหล่านั้นก็จะพ้นผิดทันที เบื้องต้นคาดว่ามีนักโทษประมาณ 10,000 ราย