'ธนาธร' ขอบคุณกำลังใจ ย้ำเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์
"ธนาธร" แถลงขอบคุณกำลังใจ พร้อมย้ำเดินหน้าทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ขณะ "ปิยบุตร" ระบุเตรียมเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขการป้องกันรัฐประหาร เข้าสภา พรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 63 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรค แถลงข่าวภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ คดีล้มล้างการปกครอง
โดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ไม่ควรมีคดีนี้ตั้งแต่แรก เพราะพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ต้องการล้มล้างการปกครอง แต่พยายามรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้ยังคงมองว่า การรัฐประหาร ต่างหากที่เป็นการล้มล้างการปกครองเพราะฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ดังนั้นจึงไม่ใช่ประชาชนที่คิดล้มล้างการปกครอง โดยในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันพุธ-วันพฤหัสบดี ที่จะถึงนี้ พรรคอนาคตใหม่ จะยื่นญัตติเข้าไป เพื่อขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขการป้องกันการทำรัฐประหารด้วย และในวันนี้ ส.ส.ของพรรค ยังยืนยันเดิยหน้าทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ พร้อมเชื่อว่า แม้จะยกคำร้องยุบพรรคในวันนี้ แต่ยังมีกระบวนการทำลายพรรคอนาคตใหม่อยู่
ขณะที่ นายธนาธร กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจและทำให้พรรคอนาคตใหม่ก้าวมาถึงจุดนี้ วันนี้ได้น้อมรับคำวินิจฉัย และพรรคจะยังเดินต่อไป โดยขอสัญญากับประชาชนว่า ส.ส.พรรคอนาคตใหม่จะมุ่งมั่นทำงานในสภาอย่างสร้างสรรค์ อย่างมีคุณภาพ ตรวจสอบรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ และจะทำนโยบายเป็นจริงให้ได้ โดยภายใน 2-3เดือนข้างหน้า จะรณรงค์ร่าง พ.ร.บ.ที่เคยเสนอ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช.17ฉบับ /ร่าง พ.ร.บ.การเกณฑ์ทหารฯ ขณะที่อีกด้านก็จะทำงานกับประชาชนอย่างต่อเนื่องนอกสภา โดยจะไปรับฟังเสียงประชาชนทุกพื้นที่ในประเทศต่อไป รณรงค์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ วันนี้ทุกท่านเห็นแล้ว ว่าเราทำงานหนักมาแค่ไหน และจะทำงานหนักต่อไป
นายธนาธร ย้ำอีกครั้งว่า พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง และมันพึ่งเริ่มต้น ยังมีสิ่งที่อยากทำอีกมากมาย ซึ่งสัญญาว่าจะทำให้เต็มที่ ผลักดันให้ทุกอย่างเป็นจริง
ส่วนกิจกรรมทางสังคมหลังจากนี้ นายธนาธร ระบุว่า จะยังเข้าร่วมกิจกรรมต่อไป เพราะกิจกรรมวิ่งไล่ลุงและกิจกรรมที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางคดี แต่เป็นการไปเข้าร่วมตามสิทธิเสรีภาพ พร้อมมองว่าขณะนี้ยังมีการข่มคู่คุกคามปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนอยู่