'ชวน' ขอรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีเสียบบัตรแทนกัน
“ชวน” ขอรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีเสียบบัตรแทนกันจะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ63 สะดุด ขณะที่มั่นใจมีทางออก ไม่มีทางตัน พร้อมย้ำสั่งสภาสอบเอาผิดทุกกรณี เตือน ส.ส. จำไว้เป็นบทเรียน เป็นผู้แทนต้องรับผิดชอบ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการสอบสวนเอาผิดกรณีที่มี ส.ส.เสียบบัตรแทนกันในระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า เบื้องต้น ตนได้ 2 คำร้องตามที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส.ฝ่ายค้าน เข้าชื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ที่มีการเสียบบัตรแทนกัน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คงต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพ ส.ส.หญิง พรรคพลังประชารัฐ เสียบบัตรแทนกันนั้น ยืนยันว่าสภาฯจะตรวจสอบทุกกรณี แต่ในกรณีที่เจ้าตัวไม่อยู่ในห้องประชุม แต่ปรากฏว่าลงคะแนน ถือว่าเป็นปัญหาแน่นอน ส่วนกรณีที่ตัวอยู่ แต่ให้เพื่อน ส.ส.เสียบบัตรให้ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้นก็ต้องดูที่เจตนา ซึ่งสภาจะต้องสอบข้อเท็จจริงต่อไปว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร จะมีความผิดทางอาญาหรือส่งต้องเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)หรือไม่ ตนจะพิจารณาจากผลสอบสวนที่ออกมาว่า เป็นอย่างไร เข้าข่ายประมวลจริยธรรมหรือไม่ แต่เรื่องนี้โดยหลักการแล้ว แม้จะอยู่ในห้องประชุมก็ควรเสียบบัตรด้วยตนเอง แม้ห้องประชุมจะมีข้อจำกัดเรื่องที่นั่งและช่องเสียบบัตรที่ไม่เพียงพอ แต่ไม่ว่าเครื่องมือจะเป็นอย่างไร หาก ส.ส. มีความรับผิดชอบ เรื่องทำนองนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ส.ส.ทุกคนควรระวังตัว และใช้กรณีนี้เป็นบทเรียน
ส่วนที่มีความเห็นให้ออกพระราชกำหนด ( พ.ร.ก.) เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการบังคับใช้งบประมาณฯ ปี 2563 นั้น นายชวนบอกว่า เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหากันต่อไป ทุกอย่างไม่มีทางตัน แม้ว่ากรณีนี้อาจจะทำให้งบประมาณแผ่นดินล่าช้า แต่ทุกอย่างก็ต้องแก้ไปตามที่กฏหมายเปิดช่องให้ทำ โดยขณะนี้ทำได้แค่เพียงรอว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร ไม่สามารถพูดแทนศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ไม่มีทางตันแน่นอน ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฏหมาย และสภาไม่ต้องเตรียมทางออกไว้ เพราะกฏหมายงบประมาณเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะเป็นผู้ดำเนินการ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว